🎬  ภาพยนตร์ไม่เพียงแต่จะเป็นสื่อเชื่อมผู้คนบนโลก ด้วยการพาเรื่องราวจากต่างพื้นที่มาให้ได้เรียนรู้ระหว่างกันและกัน หากแต่ภาพยนตร์นั้นยังมักจับภาพชีวิตที่จำต้องอยู่นอกเหนือพื้นที่ของตนมานำเสนออยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่ผิดทาง หรือผิดแผกแตกต่างทางวัฒนธรรม ภาษา และค่านิยม ไปจนถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตน สภาวะจิตใจ ตลอดจนสถานะอันแปลกแยก เมื่อมีเรื่องพื้นที่หรือสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง 

.

🧐 โปรแกรมภาพยนตร์ Misplaced ไม่ใช่ที่ของเรา จะพาผู้ชมไปสำรวจมิติดังกล่าวตลอดเดือนกรกฎาคม เริ่มตั้งแต่หนังไทยคลาสสิก ข้าวนอกนา (2518) ซึ่งสะท้อนถึงปมด้อยของลูกครึ่งไทยที่เกิดจากทหารอเมริกัน-แอฟริกันในช่วงสงครามเย็น แม่นาคอเมริกา (2518) ที่นำตำนานผีแม่นาคมาปรับบริบทให้เป็นหญิงอเมริกัน ในอีกด้านหนึ่ง อเมริกายังเคยถูกนำเสนอภาพเป็นดินแดนแห่งความหวังของคนไทยใน บ๊าย..บาย ไทยแลนด์ (2530) ซึ่งซ้อนทับเรื่องพื้นที่ขึ้นอีกชั้น เมื่อพวกเขาต้องข้ามชายแดนและปลอมตัวเป็นคนลาว

.

🎥 การอพยพพลัดถิ่นนับเป็นหัวข้อใหญ่ที่ก่อให้เกิดภาวะดังกล่าว ในโปรแกรมนี้มีหนังโรแมนติกคอเมดี รักภาษาอะไร (2557) ที่ฉายภาพการพยายามเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างหนุ่มแรงงานพม่ากับสาวไทย กระเบนราหู (2561) หนังรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ซึ่งอุทิศแด่ชาวโรฮิงญา และตั้งคำถามถึงความเกลียดชังต่อคนต่างชาติพันธุ์ รอวัน (2566) สารคดีติดตามครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวซูดานในไทย ขณะรอไปยังประเทศที่สาม และ ดอยบอย (2566) หนังเล่าเรื่องคนชายขอบจากรัฐฉานที่หนีเข้ามาเมืองไทย และต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ  ในขณะเดียวกันยังมี เจ้าดวงดอกไม้ (2517) ที่จัดอยู่ในโปรแกรม Archive Rediscovery ซึ่งพลิกฝั่งเล่าให้หนุ่มชาวเมืองต้องหลงเข้าไปอยู่ในพื้นที่ชายขอบ จนรักกับสาวกะเหรี่ยง และเผชิญกับประเพณีที่ไม่คุ้นเคย 

.

🎥 จากหนังไทยไปสู่หนังต่างประเทศ มีทั้ง The Terminal (2547) หนังฮอลลีวูดเรื่องดังว่าด้วยชายที่ติดอยู่ในสนามบินอเมริกัน เพราะประเทศบ้านเกิดมีสงคราม Blue Bayou (2564) ซึ่งถ่ายทอดชีวิตหนุ่มเกาหลีที่เติบโตและต้องต่อสู้เพื่อจะอยู่ในอเมริกา La Chimera (2566) หนังอิตาลีที่มีตัวละครนำเป็นนักโบราณคดีอังกฤษหลงถิ่น นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เรื่องจากโปรแกรมภาพยนตร์โลกคือ Disco Boy (2566) หนังฝรั่งเศสเกี่ยวกับหนุ่มที่สมัครเป็นทหารเพื่อแลกกับการได้สัญชาติ และต้องไปประจำการที่ไนจีเรีย กับ Wings of Desire (2530) หนังเยอรมันคลาสสิก เล่าเรื่องเทพสวรรค์ผู้ตกหลุมรักหญิงสาวบนโลก ซึ่งสามารถดูควบคู่ไปกับงานของไทยอีกเรื่องคือ เทวดาตกสวรรค์ (2532) หนังตลกเล่าสถานการณ์เมื่อเทวดาถูกส่งลงมาทำภารกิจในโลกมนุษย์