หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล: A Retrospective

image

ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร ปี 2568 หรือ Bangkok International Film Festival 2025 เมื่อวันที่ 27 กันยายน ถึง 15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีโปรแกรมสำคัญที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมคือ โปรแกรมผลงานของ “ท่านมุ้ย” หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งทางเทศกาลได้รวบรวมภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ที่ทรงกำกับมาจัดฉายมากกว่า 10 เรื่อง โดยบางส่วนเป็นผลงานจากคลังอนุรักษ์ของหอภาพยนตร์ 

เนื่องในวาระครบรอบวันประสูติของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งตรงกับวันที่ 29 พฤศจิกายน หอภาพยนตร์จึงนำผลงานเหล่านั้นกลับมาฉายที่หอภาพยนตร์อีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงต้นเดือนมกราคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแด่ผลงานของคนทำหนังไทยที่ได้รับการยกย่องสูงสุดคนหนึ่ง และเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แก่แฟนภาพยนตร์ไทย 

ภาพยนตร์เหล่านี้เป็นงานที่หอภาพยนตร์ได้นำฟิล์มในการอนุรักษ์มาสแกนภาพใหม่ให้คมชัดขึ้น โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ นางแบบมหาภัย ภาพยนตร์ที่เคยออกฉายในปี 2519 และเป็นงานที่ผู้ชมรุ่นหลังไม่เคยได้ชมมาก่อน เนื่องจากไม่เคยผลิตเป็นวีดิทัศน์ออกจำหน่าย แม้เสียงของภาพยนตร์จะไม่สมบูรณ์นัก และเสียงในช่วง 10 นาทีสุดท้ายขาดหายไป เนื่องจากฟิล์มเนกาทีฟเสียงเสื่อมสภาพ แต่ก็นับเป็นฟิล์มเพียงชุดเดียวของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ค้นพบในปัจจุบัน และจะมีรอบฉายที่เชิญนักแสดงในเรื่องมาพูดคุยด้วย

ผลงานเรื่องอื่น ๆ ที่รีมาสเตอร์ใหม่และเตรียมจัดฉายในโปรแกรมนี้ ได้แก่ งานที่หาฉบับสมบูรณ์คมชัดชมได้ยาก ทั้ง กาม (2521) ถ้าเธอยังมีรัก (2524) รวมถึงงานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติตั้งแต่ มันมากับความมืด (2514) เขาชื่อกานต์ (2516) เทพธิดาโรงแรม (2517) เทวดาเดินดิน (2519)  มือปืน (2526) และ กล่อง (2541) 

หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ประสูติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2485 ในราชสกุลที่ทรงผูกพันเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยมายาวนาน ทั้งพระบิดา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ หรือ “เสด็จพระองค์ชายเล็ก” และพระปิตุลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล หรือ “เสด็จพระองค์ชายใหญ่” ซึ่งต่างทรงเป็นผู้สร้างหนังไทยมาตั้งแต่ยุคแรกของวงการ

หลังจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัย UCLA สหรัฐอเมริกา วิชาเอกด้านธรณีวิทยา และวิชาโทด้านภาพยนตร์ ทั้งยังได้รู้จักและทำงานเป็นผู้ช่วยให้แก่ เมเรียน ซี. คูเปอร์ คนทำหนังคนสำคัญของฮอลลีวูด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้สนใจในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เมื่อกลับมาเมืองไทยพระองค์ได้ไปช่วยงานในบริษัทของครอบครัวคือ ละโว้ภาพยนตร์ รวมทั้งได้กำกับภาพยนตร์โทรทัศน์ ก่อนจะเริ่มกำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรก มันมากับความมืด ออกฉายในปี 2514 และก้าวขึ้นมาเป็นคนทำหนังคลื่นลูกใหม่ของวงการหนังไทย หลังผลงานเรื่องที่สองคือ เขาชื่อกานต์ (2516) ซึ่งกล่าวถึงอุดมการณ์ของหนุ่มสาวและเปิดโปงปัญหาทุจริต ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในหมู่นักศึกษาปัญญาชน

นับตั้งแต่นั้นผลงานภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลก็ได้รับการยกย่อง ทั้งในแง่การบันทึกภาพสังคมไทยหลายระดับชั้น การถ่ายทอดประเด็นปัญหาในแง่มุมต่าง ๆ รวมทั้งมีเทคนิคด้านภาพยนตร์ที่โดดเด่น ก่อนที่พระองค์จะทรงสร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ สุริโยไท (2544) และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้ง 6 ภาค (2550-2558) ในช่วงท้ายของการทำงาน และยังทรงเป็นคนทำหนังที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการหนังไทย รวมทั้งมีอิทธิพลต่อผู้ชมมาตลอดหลายทศวรรษ


เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 19

เลือดจีนแผ่นดินไทย

โปรแกรมภาพยนตร์ เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 21

โปรแกรมภาพยนตร์ ลานดารา พิราวรรณ ประสพศาสตร์

ดูหนังดูละคร On Screen On Stage

ภาพยนตร์โลก WORLD CINEMA PROGRAMME