ศรีไศล สุชาตวุฒิ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2487 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรคนที่ 8 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน ในครอบครัวที่มีบิดาเป็นหัวหน้าศาลประจำจังหวัด เธอมีใจรักในการร้องเพลงและฝึกฝนด้วยตนเองตั้งแต่เด็ก โดยเคยได้รางวัลชนะเลิศการประกวดร้องเพลงในกลุ่มนักเรียนมัธยมต้น ในงานกาชาด สวนอัมพร ซึ่งได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในปี พ.ศ. 2496
หลังจบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2504 ศรีไศลได้เข้าเรียนการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าที่โรงเรียนสอนตัดเสื้อสปัน เมื่อจบแล้วจึงได้ฝึกงานและเป็นครูสอนตัดเสื้อที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นเวลา 2 ปี ปี พ.ศ. 2506 เธอได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักร้อง ด้วยการเป็นนักร้องรับเชิญ ในรายการชรินทร์โชว์ที่มีประจําเดือนละครั้ง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม และต่อมาได้เข้าเป็นนักร้องประจําวงดนตรีคีตะวัฒน์ หลายครั้งได้มีโอกาสร่วมร้องเพลงกับวงดนตรี อส. พระราชวังดุสิต ซึ่งออกอากาศเป็นรายการสด ทุกเย็นวันศุกร์ ทําให้มีโอกาสร้องถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่ทรงแซ็กโซโฟน
ปี พ.ศ. 2509 ศรีไศลเริ่มมีผลงานเพลงบันทึกลงแผ่นเสียง เริ่มต้นจาก “รักเอย” และ“ชั่วฟ้าดินสลาย” จากนั้นจึงมีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเพลงอื่น ๆ ออกมาอีกมากมาย ปี พ.ศ. 2512 เธอได้บันทึกเสียงอัลบั้ม “อัศวินอมตะ” ซึ่งเป็นการนำเพลงประกอบภาพยนตร์ของอัศวินภาพยนตร์ทั้งหมด 10 เพลงมาบันทึก อาทิ “ชีวิตละคอน” “เงาไม้” “หากรู้สักนิด” “ปิ่นทอง” “ดอกไม้” “ในฝัน” “ลมหวล” “บัวขาว” ฯลฯ ควบคุมการบันทึกเสียงโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธุ์ยุคล
ปี พ.ศ. 2518 ศรีไศลเริ่มทำงานร้องเพลงประจํา เริ่มต้นที่ “The Pub” โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท จากนั้นจึงได้ร้องประจำได้สถานที่ชื่อดังต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2521–2522 เธอได้ทำสัญญาร้องเพลงพร้อมกันถึง 4 แห่ง โดยแบ่งเป็นแห่งละ 1 ชั่วโมง และยังได้บันทึกแผ่นเสียงผลงานเพลงอย่างต่อเนื่อง นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ในช่วงที่กำลังรุ่งโรจน์นี้เอง ศรีไศลได้รับการชักชวนจาก เริงศิริ ลิมอักษร ผู้กำกับมากความสามารถให้มาแสดงภาพยนตร์ เรื่อง เพลงรักเพื่อเธอ ที่เขาสร้างและกำกับ ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตและความรักของผู้คนในวงการเพลง โดยศรีไศลได้รับบทเป็นนักร้องเช่นเดียวกับชีวิตจริงและร่วมแสดงกับนักแสดงชื่อดังมากมาย อาทิ สรพงศ์ ชาตรี, พิศมัย วิไลศักดิ์, อุเทน บุญยงค์, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ฯลฯ ภาพยนตร์ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2521 หลังจากนั้นเธอจึงมีผลงานภาพยนตร์อีก 2 เรื่องคือ หนามยอกอก (2522) กำกับโดย กรสวัสดิ์ สร้างโดย เป๋ โปสเตอร์ และ แก้ว (2523) กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ สร้างโดย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังได้รับการทาบทามจาก ภัทราวดี มีชูธน ให้แสดงละครโทรทัศน์ โดยมีผลงานการแสดงในเรื่อง ความรัก กับ ประชาชนชาวแฟลต ซึ่งภัทรวดีเป็นผู้กำกับ และ ดงมนุษย์ กำกับโดย เริงศิริ ลิมอักษร ทั้งหมดออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และถือเป็นละครที่นำสมัยมากในช่วงปี พ.ศ. 2521–2523 นอกจากผลงานการแสดง ศรีไศลยังได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์และละครอีกหลายเรื่อง อาทิ “ชีวิตบัดซบ” จาก ชีวิตบัดซบ (2520), “ไม้ใกล้ฝั่ง” จาก วัยตกกระ (2521), “ชีวิตคืออะไร” จาก น้ำค้างหยดเดียว (2521), “อาจเป็นคราวนี้” จาก เทพธิดาบาร์ 21 (2521), “ชีวิต” จาก อีพริ้ง คนเริงเมือง (2523) ฯลฯ
ปี พ.ศ. 2523 ศรีไศลได้เดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นั่นอย่างยาวนาน ก่อนที่จะกลับมามีคอนเสิร์ต “รักข้ามขอบฟ้า” เมื่อ พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 30 ปี และได้รับการต้อนรับอย่างดีจากแฟนเพลง นับจากนั้นเธอได้มีคอนเสิร์ตทั้งเดี่ยวและรับเชิญ รวมทั้งคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อช่วยหาทุนให้หน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ชมภาพบรรยากาศกิจกรรมลานดารา ศรีไศล สุชาตวุฒิ ได้ที่ <<คลิก>>