ครรชิต ขวัญประชา

ดาวดวงที่ 21

ชื่อในการแสดง ครรชิต ขวัญประชา

ชื่อ-นามสกุลจริง ครรชิต เกียรติสุชน

วันเกิด 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2483

พิมพ์มือลานดารา 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551


ครรชิต เกิดที่จังหวัดสมุทรสงคราม จบจากโรงเรียนศรัทธาสมุทร แล้วมุ่งหน้ามาหางานทำที่กรุงเทพมหานคร แต่กลับได้ทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา ต่อมาถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเรืออยู่ 3 ปี เมื่อพ้นเกณฑ์ก็ได้เข้าทำงานที่กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติอีก 4 ปี ศักดา ธงชัย มาพบเข้าก็ชักชวนให้มาเป็นพระเอกภาพยนตร์ 16 มม. เรื่องแรกคือ นักเลงพันเหลี่ยม คู่กับ กรุณา ยุวากร เทพีจากอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เข้าฉายเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2510 ที่โรงภาพยนตร์เฉลิมบุรี แต่ภาพยนตร์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก 


ต่อมา เชิด ทรงศรี นำครรชิตไปแสดงประกบกับ สมบัติ เมทะนี ในภาพยนตร์ชีวิตรัก เศร้าสะเทือนอารมณ์ เรื่อง อกธรณี เข้าฉายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2511 ที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์ เรื่องนี้เอง ที่ทำให้แฟนภาพยนตร์เริ่มจดจำชื่อครรชิตว่าเป็นพระเอกคนใหม่ ยิ่งเมื่อภาพยนตร์เรื่อง นางพญา (2512 สมบัติ-สุทิศา) และ ดินน้ำลมไฟ (2512 สมบัติ-อรัญญา-สุทิศา) ที่ครรชิตร่วมแสดงเข้าฉายอีก ก็ยิ่งทำให้ครรชิตมีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งขึ้น ต่อมาครรชิตถูกจับแสดงประกบกับ มิตร ชัยบัญชา ครั้งแรกด้วยภาพยนตร์ 16 มม. แนวสยองขวัญเรื่อง พระจันทร์แดง (2513 มิตร-อรัญญา) ก่อนที่จะตามมาด้วยภาพยนตร์ 35 มม. เรื่อง อินทรีทอง (2513 มิตร-เพชรา) ซึ่งสร้างชื่อให้กับครรชิตมากยิ่งขึ้นอีก


หลังจาก มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิต ครรชิตถูกจับตามองจากบรรดาผู้สร้างหลายรายในฐานะเด็กปั้นของ มิตร ชัยบัญชา ทำให้ปี 2514 มีภาพยนตร์ที่ครรชิตแสดงเป็นพระเอกทั้งจับคู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์และนางเอกอื่น ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นเช่นเรื่อง ทุ่งเศรษฐี (2514 เพชรา) แก้วขนเหล็ก (2514 เพชรา) ทโมนไพร (2514 เพชรา) แม่นม (2514 เพชรา)  สุภาพบุรุษเสือใบ (2514 เพชรา) สองฝั่งโขง (2514 ดวงใจ) สะใภ้ยี่เก (2514 เนตรนภา) คีรีบูน (2514 เพชรา) เขยตีนโต (2514 เพชรา) พี่สาว (2514 สุทิศา) สุดที่รัก (2514 เพชรา) เทพบุตรจอมโกง (2514 อรัญญา) ลานพัยหญ้า (2514 เพชรา) ปานจันทร์ (2514 สุทิศา) ดอกดิน (2514 อรัญญา) ในจำนวนนี้ ทุ่งเศรษฐี เป็นหนังเงินล้านเรื่องแรกของครรชิตก่อนที่จะมีเรื่อง แก้วขนเหล็ก ตามมาอีกเรื่อง


ปี 2514-2515 ถือเป็นปีทองของครรชิตเพราะมีภาพยนตร์เข้าฉายตลอดปี เช่นเรื่อง กว๊านพะเยา (2515 เพชรา) พิษผยอง (2515 เพชรา) ล่ามหากาฬ (2515 สุทิศา) สุดสายป่าน (2515 เพชรา) ลานสาวกอด (2515 เพชรา) อเวจีสีชมพู (2515 พิศมัย) กินรีลอยฟ้า (2515 อรัญญา) กล้าสิบทิศ (2515 เพชรา) 11 ม.ม. (2515 อรัญญา) แควเสือ (2515 สุทิศา) ริมฝั่งแม่ระมิงค์ (2515 สุทิศา) คุ้มนางฟ้า (2515 เพชรา) ก่อนที่จะทิ้งความเป็นพระเอกไว้ในปี 2516 จากภาพยนตร์เรื่องคือ มนต์เมืองเหนือ (2516 บุษบา) กุหลาบไฟ (2516 เพชรา) เจ้าสาวเรือพ่วง (2516 เพชรา) แล้วก็เบนเข็มไปแสดงละครโทรทัศน์ของรัชฟิล์มเช่นเรื่อง มนุษย์ ตะวันขึ้นที่อ่าวพังงา


จากนั้น ครรชิตก็เริ่มกลับคืนสู่จอเงินอีกครั้งในปี 2518 โดยรับบทเป็นนายตำรวจผู้ตามไล่ล่าเหล่าพวกเทวดาเดินดิน ซึ่ง ม.จ.ชาตรีเฉลิมยุคล กำกับการแสดงและก็มีผลงานภาพยนตร์เข้าฉายติดต่อกันเรื่อยมาหลายร้อยเรื่องเช่น โรงแรมผี (2518 นาท-ปิยะมาศ) นักเลงป่าสัก (2518 สมบัติ-นาท) ชุมแพ (2519 สมบัติ-นาท) มหาอุตม์ (2519 สมบัติ-ไชยา) ท้ามฤตยู (2519 สมบัติ-อรัญญา) เผาขน (2519 สมบัติ-อรัญญา) ไผ่กำเพลิง (2519 สมบัติ-อรัญญา) วีระบุรุษกองขยะ (2519 สรพงศ์-ทัศน์วรรณ) ทางเสือผ่าน (2520 กรุง-นาท) ดับเครื่องชน (2520 กรุง-สรพงศ์) ศึก 5 เสือ (2520 สมบัติ-อรัญญา) สิงห์สำออย (2520 สมบัติ-มยุรา) ลุย (2520 สมบัติ-สรพงศ์) มหาหิน (2521 สมบัติ-ปิยะมาศ) ฯลฯ 


นอกจากนี้ ครรชิตเคยเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ 2 เรื่องคือ หนักแผ่นดิน (2520 สมบัติ-อรัญญา) กำกับการแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และเรื่อง นักสู้ภูธร (2521 สมบัติ-อรัญญา) กำกับการแสดงโดย ชุมพร เทพพิทักษ์