ดาวดวงที่ 28
ชื่อในการแสดง ปาริชาติ บริสุทธิ์
ชื่อ-นามสกุลจริง ปาริชาติ บริสุทธิ์
วันเกิด 16 มีนาคม พ.ศ. 2498
พิมพ์มือลานดารา 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ปาริชาติ มีชื่อเล่นว่า เปิ้ล เกิดที่กรุงเทพมหานคร จบจากวิทยาลัยวิชาการศึกษาพระนคร ชอบงานด้านศิลปะ แต่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตหาเงินส่งเสียน้อง ๆ ให้เรียนหนังสือ จึงมุมานะในการหางานทำมากกว่าปกติ การได้เป็นนางแบบถ่ายโฆษณาสินค้าผ้าอนามัยยี่ห้อหนึ่ง ทำให้ปาริชาติมองเห็นช่องทางในการวิ่งหาสินค้ามาทำโฆษณาจนได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับ เพิ่มพล เชยอรุณ ซึ่งเปิดบริษัทรับทำภาพยนตร์โฆษณาสินค้าต่าง ๆ
ปาริชาติ เริ่มเข้าวงการภาพยนตร์ครั้งแรกก็เพราะเพิ่มพลถูก อำนาจ สอนอิ่มศาสตร์ ชักชวนให้มาสร้างและกำกับภาพยนตร์เรื่อง ชีวิตบัดซบ (2520 สรพงศ์-เปียทิพย์) ครั้งนั้นปาริชาติได้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับบทภาพยนตร์ ปรากฏว่า เมื่อเข้าฉายก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนภาพยนตร์ แถมยังมีรางวัลตุ๊กตาทองมาเป็นประกันด้วย ทำให้เพิ่มพลเริ่มเดินหน้าเต็มตัวในวงการภาพยนตร์
เมืองในหมอก เป็นผลงานลำดับต่อมาของเพิ่มพล ยังคงให้ สรพงศ์ ชาตรี เป็นดารานำ แต่แทบไม่มีบทบาท ส่วนนางเอกนั้น เพิ่มพลเลือกนักแสดงหน้าใหม่ถึง 3 คน คนแรกคือ เบญจวรรณ บุญญกาศ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คนต่อมาก็คือ ปาริชาติ บริสุทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ปาริชาติเคยทำงานออกแบบเสื้อผ้า แต่งหน้านักแสดง กำกับบทและควบคุมภาพต่อเนื่องในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ชีวิตบัดซบ ให้เพิ่มพลมาก่อน ส่วนอีกคนก็คือ แคทรียา เอริกุล เมืองในหมอก เข้าฉายเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2521 แม้กระแสตอบรับจะได้ไม่เท่ากับเรื่องชีวิตบัดซบ แต่ก็ทำให้วงการภาพยตร์ไทยได้รู้จักกับสองนางเอกใหม่คือ ปาริชาติและเบญจวรรณแล้ว
ปาริชาติ เริ่มแสดงเป็นนางเอกเต็มตัวในเรื่อง เมืองขอทาน (ขึ้กลากคอนกรีต) คู่กับ ไพโรจน์ สังวริบุตร โดยรับบท พลับพลา โสเภณีสาวผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แล้วผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าแม่แก๊งค์ขอทานคนพิการ แต่เพราะใช้อำนาจปกครองอย่างไม่เป็นธรรม จึงต้องมีปัญหาพวกขอทาน เมืองขอทาน เข้าฉายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2521 แม้จะมีเนื้อหาสะท้อนปัญหาสังคมที่น่าดู ส่วนปาริชาติเองก็แสดงได้ดี แต่เพราะผู้แสดงหลักในภาพยนตร์เล่นเป็นคนขอทานได้เหมือนจริง สกปรก ม่อมแม่ม จึงทำให้แฟนภาพยนตร์หลายคนไม่ชอบที่จะเห็นภาพอันน่าม่นหมองและหดหู่ใจเช่นนั้น แต่ปาริชาติก็ยังคงผูกติดกับงานภาพยนตร์ของเพิ่มพล ทำให้ระยะหลัง ๆ ปาริชาติหันกลับไปทำงานในกองถ่ายเหมือนเดิมอีก โดยตั้งเป้าหมายไปที่การเป็นผู้กำกับภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่เพิ่มพลเป็นผู้กำกับการแสดงนั้น ก็ยังปาริชาติร่วมแสดงอีกแม้จะมีบทบาทไม่มาก แต่ก็เน้นการแสดงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เช่นเรื่อง สัญชาตญาณโหด (2522 จตุพล-นันทนา) ไผ่แดง (2522 สรพงศ์-สุรพล) หลวงตา (2523 ล้อต๊อก-จตุพล) โดยเฉพาะไผ่แดงนั้น ปาริชาติแทบไม่มีบทพูดเลย แต่การแสดงออกทางสายตา ก็ทำให้เห็นถึงความสามารถทางการแสดงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ปาริชาติทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
แม้ระยะหลังเพิ่มพลจะมีงานกำกับภาพยนตร์มากขึ้น แต่ก็หาทำให้งานแสดงภาพยนตร์ของปาริชาติเพิ่มขึ้นด้วยไม่เพราะปาริชาติกลับเลือกที่จะเป็นทีมงานในกองถ่ายอย่างที่เคยทำมาก่อนมากกว่า เช่น เรื่อง ระย้า (2524 ฉัตรชัย-วิไลลักษณ์) หลวงตา ภาค 2 (2525 ล้อต๊อก-สรพงศ์) ฅนขวางโลก (2527 วัชระ-เนาวรัตน์) สงครามปาก (2526 สรพงศ์-ปิยะมาศ) โดยปาริชาติกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งในบทแม่ของ แดงไบเล่ย์ ในเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง (2540 เจษฎาภรณ์-นพชัย) และรับบท แม่นิ่ง ในเรื่อง แม่เบี้ย (2544 นภคประภา-พุฒิชัย)