เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์

ดาวดวงที่ 80

ชื่อในการแสดง เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์

ชื่อ-นามสกุลจริง เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์

วันเกิด 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504

พิมพ์มือลานดารา 10 กันยายน พ.ศ. 2552


เนาวรัตน์ มีชื่อเล่นว่า แหม่ม เกิดที่กรุงเทพมหานคร จบจากโรงเรียนนักบุญโยนออฟอาร์ต แล้วเข้าทำงานแผนกหาโฆษณาของหนังสือพิมพ์สยามิศร์ได้ประมาณ 3 เดือน จึงออกมาเดินแบบให้ร้านเสริมสวย “เพ็ญ” ต่อมาเฮียหลอ (พิชัย น้อยรอด) ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังชวนให้มาแสดงภาพยนตร์เป็นนางเอกเรื่องแรกคือ ไอ้ติงต๊อง โดยแสดงเป็นเลขาของ สมบัติ เมทะนี ซึ่งเป็นหนังแนวตลก แต่ยังไม่ทันถ่ายทำได้จบเรื่อง เฮียหลอเกิดไอเดียกะฉูดขึ้นมาหลังจากเห็นภาพยนตร์จีนมีเรื่อง เทพธิดาโล้น แล้วทำไมหนังไทยจะมีไม่ได้ จึงแซงคิวเปิดกล้องเรื่องใหม่แล้วจับ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ มากร้อนผม โกนหัวเพื่อให้เป็น อีโล้นซ่าส์.. เรื่องของเด็กสาวที่ถูกล่อลวงมาขายซ่องโสเภณี แต่เมื่อเธอไม่ยอมทำตาม พ่อเล้าแม่เล้าก็เลยจับเธอกร้อนผม หวังจะประจาน แต่ดันไปถูกใจอาเสี่ย ๆ กระเป๋าหนักเข้า เธอจึงจำใจขายตัวเพื่อช่วยเหลือผู้มีพระคุณ พิชัยเร่งถ่ายทำและชิงนำออกฉายก่อนทันที


แต่ก่อนฉาย ชื่อเรื่อง “อีโล้นซ่าส์” ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ จึงต้องตัดเหลือเพียงชื่อ “โล้น” เฉย ๆ แต่หากดูในใบปิดหนัง จะเห็นว่า มีการใช้วิธีกากบาททับชื่ออีกับซ่าส์เท่านั้น อีโล้นซ่าส์ จึงเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ ที่ได้เข้าฉายก่อน โดยมีดาราร่วมแสดงอีกคือ กรุง-ยอดชาย-เศรษฐา-ดวงชีวัน เข้าฉายเมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม 2521 ที่โรงภาพยนตร์เมโทร-เจ้าพระยา-เพชรพิมาน 75 โดยก่อนหน้านั้นมีการฉายชิมลางรอบมิดไนท์โชว์ในคืนวันที่ 23-24 มิถุนายน 2521 ที่โรงภาพยนตร์แอมบาสเดอร์-รามา-สิริรามา

 

เพียง “อีโล้นซ่าส์” เรื่องเดียว ก็ทำให้ใคร ๆ รู้จักชื่อ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ กันแล้ว บางคนก็เรียกเธอว่า อีโล้นซ่าส์ ซึ่งเรียกได้ว่า เธอดังเพราะกล้าโกนหัว ดังเพราะกล้าที่จะเล่นบทนางเอกเซ็กซี่นี่เอง แต่ภาพลักษณ์เหล่านี้ กลับหายไปหมดกับภาพยนตร์ในเรื่องถัดมาเข้าฉาย เนาวรัตน์แสดงภาพยนตร์ได้ไม่นาน ก็เลิกราจากวงการเพราะมีครอบครัว หากจะมีอยู่บ้างก็เป็นภายหลังที่กลับเข้ามาแสดงละครโทรทัศน์เท่านั้น 


ภาพยนตร์ที่ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ แสดงไว้ เช่นเรื่อง หัวใจห้องที่ 5 (2521 ลลนา-สมบัติ-อรัญญา) ไอ้ติงต๊อง (2522 สมบัติ-กรุง-ยอดชาย) จิ๊กกี๋ ก็มีหัวใจ (2522 สมบัติ-พิศมัย-ดวงชีวัน) ซึ่งเรื่องนี้ต้องประกบ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ด้วย ตามด้วยเรื่อง รักริษยา (2522 ธิติมา-ชลิต) ฝนหลงฤดู (2522 สรพงศ์-เนาวรัตน์)