20 มีนาคมนี้ ขอเชิญแฟนหนังไทยมาร่วมเป็นสักขีพยานในการประทับรอยมือรอยเท้าร่วมกัน ณ ลานดารา ของ นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร ปวีณา ชารีฟสกุล และ วาสนา พูนผล นักแสดงคนสำคัญของวงการภาพยนตร์ไทยในทศวรรษ 2530 เปิดงานด้วย เวลาในขวดแก้ว ภาพยนตร์ปี พ.ศ. 2534 ที่สร้างจากนวนิยายเรื่องสำคัญของประภัสสร เสวิกุล และเป็นผลงานการแสดงร่วมกันของนักแสดงนำทั้งสามที่ได้ถ่ายทอดบาดแผลของวัยรุ่นไทยออกมาอย่างเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง และสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่กัดกินสังคมไทยมายาวนาน
หลังจากจบภาพยนตร์นักแสดงทั้งสามจะมาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังของการแสดงภาพยนตร์ เวลาในขวดแก้ว และบอกเล่าประสบการณ์การทำงานในวงการภาพยนตร์ พร้อมร่วมประทับรอยมือรอยเท้า เป็นดาวดวงที่ 190 191 และ 192 บนลานดารา หอภาพยนตร์
กำหนดการ
วันที่ 20 มีนาคม 2564 ณ หอภาพยนตร์
13.00 น. ฉายภาพยนตร์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว (115 นาที) ที่โรงภาพยนตร์ศาลาศีนิมา
15.00 น. สนทนา กับ คุณนฤเบศร์ จิ่นปิ่นเพ็ชร, คุณปวีณา ชารีฟสกุล, คุณวาสนา พูนผล
16.30 น. พิธีพิมพ์รอยมือรอยเท้า ของคุณนฤเบศร์ จิ่นปิ่นเพ็ชร, คุณปวีณา ชารีฟสกุล, คุณวาสนา พูนผล ณ ลานดาร
สำรองที่นั่งได้ที่ <<คลิก>>
ประวัติและผลงานการแสดงภาพยนตร์
นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร
นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบจากการชักชวนของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบระดับ ปวช. เมื่อราวปี 2532 และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากรูปร่างหน้าตาและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้กลายเป็นนายแบบเนื้อหอมที่ได้ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งออกงานเดินแบบ ถ่ายโฆษณา และมิวสิกวิดีโอ
จุดเริ่มต้นในวงการภาพยนตร์ของนฤเบศร์ เกิดขึ้นเมื่อ ประยูร วงษ์ชื่น ผู้กำกับชื่อดังซึ่งกำลังเตรียมสร้างภาพยนตร์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว ได้ชักชวนให้เขามารับบทนำเป็น นัต เด็กหนุ่มผู้อ่อนไหวซึ่งเติบโตในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน แม้จะเป็นบทที่ท้าทายสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ แต่เมื่อออกฉายในปี 2534 ผลงานเรื่องแรกของนฤเบศร์ก็ได้รับเสียงชื่นชมและกลายเป็นภาพจำของภาพยนตร์ ส่งผลให้เขายิ่งได้รับความนิยม ปีถัดมา เขามีผลงานภาพยนตร์ถึง 4 เรื่อง คือ ฝากฝันไว้เดี๋ยวจะเลี้ยวมาเอา ซึ่งได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากชมรมวิจารณ์บันเทิง, ป้อ สำหรับบางวัน, แชะ แชะ แชะ เจอแจ๋วแหวว และ ขอความรักบ้างได้ไหม รวมไปถึงได้เป็นนักร้องออกอัลบั้มเพลง นับเป็นศิลปินที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งและเป็นภาพลักษณ์ของวัยรุ่นชายแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริง
ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่นฤเบศร์รับบทนำ คือ มาดามยี่หุบ ภาค 2 ตอน Thailand ใหม่จาก..อังกฤษ ถึง..ประเทศไทยไป..บางปลาม้า มา..กรุงเทพฯ (2537) หลังจากนั้นเขาจึงค่อย ๆ ห่างหายจากวงการบันเทิง ก่อนจะออกไปทำงานเบื้องหลังและประกอบธุรกิจส่วนตัวในปัจจุบัน
ปวีณา ชารีฟสกุล
ปวีณา ชารีฟสกุล เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2509 เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายโฆษณาตั้งแต่อายุ 16 ปี และมีผลงานอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับการชักชวนจากบริษัทกันตนา ให้มาแสดงละครโทรทัศน์เมื่อ พ.ศ. 2528 นอกจากการแสดง เธอยังมีความสามารถด้านการเล่นดนตรีและร้องเพลง จนทำให้ อิทธิ พลางกูร ศิลปินชื่อดัง ทาบทามให้เธอมาเป็นนักร้องออกอัลบั้มแรกในปี 2530 และออกต่อเนื่องอีกถึง 2 อัลบั้ม
ในด้านวงการภาพยนตร์ ปวีณามีผลงานเรื่องแรกในบทสมทบคือ คู่สร้างคู่สม ปี พ.ศ. 2530 ก่อนที่ปี พ.ศ. 2533 จะถือเป็นปีแจ้งเกิดของเธอในวงการภาพยนตร์ จากบทบาทการแสดงที่แตกต่างและโดดเด่น ในการร่วมงานกับผู้กำกับ แจ๊สสยาม คือ คนทรงเจ้า และ “...คือฉัน” ซึ่งต่างได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีใหญ่ทั้งตุ๊กตาทองและชมรมวิจารณ์บันเทิง รวมทั้งเรื่อง ส.อ.ว. ห้อง 2 รุ่น 44 กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
เมื่อได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว ซึ่งออกฉายในปีถัดมา ปวีณาก็พลิกบทบาทใหม่และลงทุนตัดผมสั้นเพื่อแสดงเป็น ป้อม นักเรียนหญิงที่มีบุคลิกห้าวและเก็บความรู้สึก ซึ่งต่อมาเข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ 6 ตุลา ฝีมือการแสดงระดับคุณภาพของเธอ ทำให้ปวีณาสามารถคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้ถึง ๒ เวที คือ รางวัลสุพรรณหงส์ และชมรมวิจารณ์บันเทิง
นอกจากนี้ ปวีณายังได้ร่วมงานกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ทั้งบทหนัก ๆ ใน มือปืน 2 สาละวิน (2537) ที่ได้เข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ชุด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้ง 5 ภาค นับเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงผู้มีฝีมือโดดเด่น และยังมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะละครโทรทัศน์
วาสนา พูนผล
วาสนา พูนผล เกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ในครอบครัวที่คุณพ่อมีเชื้อสายอเมริกัน เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก ทำให้เธอมีผลงานออกมามากมาย ทั้งในบทบาทนางแบบนิตยสาร นางแบบโฆษณา รวมถึงนางเอกมิวสิกวิดีโอ
จากวงการนางแบบ วาสนาก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการชักชวนของ ประยูร วงษ์ชื่น ให้มาแสดงภาพยนตร์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว โดยเธอรับบทเป็น จ๋อม เด็กสาวผู้มาจากครอบครัวที่มีฐานะ แต่ก็ประสบปัญหาครอบครัวไม่ต่างจากเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เสน่ห์และฝีมือการแสดงของเธอ ได้ทำให้ตัวละครนี้เป็นเสมือนด้านสว่างของวัยรุ่นไทยที่เต็มไปด้วยบาดแผล และเป็นส่วนสำคัญที่เติมเต็มให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่จดจำของแฟนภาพยนตร์ไทย
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ที่วาสนารับบทนำได้แก่ สยึ๋มกึ๋ย (2534) หนังปราบผีชื่อดังของผู้กำกับ ธนิต จิตนุกูล รองต๊ะ แล่บแปล๊บ (2535) หนังวัยรุ่นที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งของยุค ผลงานกำกับของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว โดยเธอได้ร้องเพลง เกิดมาเพื่อเธอ ประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย และ เพื่อนซื่อพา..ก๊อง (2536) ที่ได้กลับมาร่วมงานกับประยูร วงษ์ชื่นอีกครั้ง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเธอได้เริ่มเข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ และยังคงมีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน
