กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “น้อย วงพรู” จากบทบาทนักร้องนำของวงดนตรีอิสระที่มีเอกลักษณ์ในด้านการแสดงสด แต่ผลงานและความสามารถด้านการแสดงภาพยนตร์ของเขาที่มีมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษก็โดดเด่นอย่างมาก จนสถานะความเป็นนักแสดงนั้นสามารถนำมานิยามตัวเขาได้ไม่แตกต่างจากการเป็นนักร้อง
กฤษดาเกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2513 เขาเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน คุณแม่คือ กมลา สุโกศล นักร้องและประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงแรมและบริษัทในเครือสุโกศล หลังเรียนจบระดับมัธยมที่เมืองไทย เขาได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา โดยเลือกเรียนวิชาเอกด้านมานุษยวิทยา และวิชาโทด้านการแสดง
เมื่อเรียนจบกฤษดาเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ก กลางวันตระเวนไปคัดตัวแสดงละครเวที กลางคืนทำงานในร้านอาหาร จนตระหนักว่าไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงที่นั่น เขาจึงกลับเมืองไทยมาช่วยพี่ชาย กมล สุโกศล แคลปป์ ทำค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิค รวมทั้งได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ คนกราบหมา ผลงานหนังอิสระของ สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ (ภาพยนตร์ถูกห้ามฉายในปี 2541 แต่ปัจจุบันผ่านการตรวจพิจารณาและออกฉายโรงทั่วไปครั้งแรกเมื่อปี 2567)
ต่อมากฤษดาและพี่ชายร่วมกันก่อตั้งวงดนตรี “พรู” ออกอัลบั้มชุดแรกในปี 2544 ทำให้ชื่อของเขาเริ่มรู้จักในวงกว้าง ก่อนที่ปี 2546 เขาจะมีผลงานภาพยนตร์อีกครั้งคือ หัวใจทรนง หรือ The Adventure of Iron Pussy ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และ ไมเคิล เชาวนาศัย ที่ได้ฉายในหลายเทศกาลทั่วโลก
ปี 2547 กฤษดารับแสดงภาพยนตร์ในกระแสหลักเรื่องแรกคือ ทวารยังหวานอยู่ ที่ทั้งต้องใส่วิกและดัดฟัน ฉีกภาพลักษณ์ของ “น้อย วงพรู” ออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย
ปี 2549 กฤษดามีผลงานแสดงนำในเรื่อง 13 เกมสยอง ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่เขาทุ่มเทจนได้รับเสียงชื่นชมและคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาครอง ทั้งเวทีรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และชมรมวิจารณ์บันเทิง นับเป็นงานสร้างชื่อที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงภาพยนตร์อย่างเต็มตัว
นับจากนั้นเขาก็มีผลงานภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่องในแนวทางที่หลากหลาย เช่น หนังรักดรามาเรื่อง ณ ขณะรัก (2552) หนังตลกเรื่อง หลวงพี่เท่ง ๓ (2553) ซึ่งเขารับเล่นเพราะอยากเรียนรู้โลกของดาราตลก หนังแอ็กชันเรื่อง อันธพาล (2555) ในบท จ๊อด ที่กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ได้รับการจดจำ หนังผีเรื่อง โลงจำนำ (2556) หนังเพลงลูกทุ่งเรื่อง ลูกทุ่งซิกเนเจอร์ (2559) หรือบทตัวร้ายใน ขุนพันธ์ (2559) ซึ่งเขาสวมวิญญาณเป็นตัวละครจอมโจรภาคใต้ผู้มีอาคมแก่กล้าได้อย่างน่าสะพรึง การเข้าถึงอารมณ์และบทบาทจนกลายเป็นตัวละครนั้น ๆ ได้อย่างแนบเนียนและลึกซึ้ง นับเป็นเอกลักษณ์ในการแสดงของกฤษดาที่ผู้ชมต่างกล่าวขวัญถึง โดยผลงานการแสดงนำสองเรื่องล่าสุดของเขาได้แก่ แสงกระสือ 2 (2566) และ ปิดเมืองล่า Pattaya Heat (2567)
วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568 ขอเชิญพบกับ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ที่จะมาประทับรอยมือรอยเท้าเป็นดาวดวงที่ 206 ณ ลานดารา หอภาพยนตร์ เปิดงานด้วยการฉาย 13 เกมสยอง ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้หอภาพยนตร์ยังได้คัดสรรผลงานเรื่องอื่น ๆ ของเขามาจัดฉายให้ชมตลอดช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
