WEDDING TRIP TO BANGKOK 1938-1939

ฟิล์ม 16 มม. / สีและขาวดำ / เงียบ / ความยาว 41 นาที

ปีสร้าง 2481-2482

ผู้สร้าง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์


พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่สังคมไทยรู้จักกันดี ในฐานะที่ทรงเป็นพระเจ้าหลานเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ทรงอาภัพเนื่องจากเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย และเมื่อพระบิดาคือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ สิ้นพระชนม์ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ยังทรงพระเยาว์เพียง 12 พรรษา จากนั้นได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และประทับอยู่ที่นั่นเป็นส่วนใหญ่ ทรงศึกษาวิชาประวัติศาสตร์และวรรณคดี และสนพระทัยในการแต่งหนังสือ มีผลงานเป็นที่รู้จักและเป็นที่สนใจในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อทรงอุปถัมภ์พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ให้เป็นนักแข่งรถ และทรงตั้งคอกรถแข่ง “หนูขาว” ให้แก่พระองค์พีระ จนทรงกลายเป็นเจ้าชายนักแข่งรถที่ประสบชัยชนะและมีชื่อเสียงระดับโลก


พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงมีงานอดิเรกที่โปรดปรานอย่างหนึ่ง คือ การถ่ายภาพยนตร์ ทรงเป็นนักถ่ายภาพยนตร์สมัครเล่น โดยใช้กล้อง 16 มม. ทรงถ่ายภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ซึ่งเรียกว่า “หนังบ้าน” ไว้เป็นจำนวนมากนับร้อยม้วน โดยพระธิดา คือ ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ ได้มอบฟิล์มภาพยนตร์ส่วนพระองค์เหล่านี้แก่หอภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อสำรวจแล้วพบว่า พระองค์ทรงบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่กิจกรรมในชีวิตประจำวันของพระองค์เอง ครอบครัว และมิตรสหาย การเสด็จไปท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ และที่สำคัญคือทรงบันทึกภาพยนตร์การแข่งรถในสนามต่าง ๆ ของพระองค์พีระ นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์ที่ทรงถ่ายเล่นในลักษณะของภาพยนตร์เดินเรื่องและภาพยนตร์ทดลองอีกด้วย


ภาพยนตร์ส่วนพระองค์ เรื่อง Wedding Trip To Bangkok 1938 – 1939 Part 1-4 ที่นำเสนอขึ้นทะเบียนนี้ เป็นภาพยนตร์ส่วนพระองค์ที่พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงถ่ายทำและตัดต่อเพื่อบันทึกการเดินทางจากอังกฤษสู่ประเทศไทย ในโอกาสที่พระองค์ทรงเสกสมรสกับหม่อมเอลิซาเบธ (Elisabeth Hunter) หญิงชาวอังกฤษ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2481 ในเวลาเดียวกันที่พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชทรงเสกสมรสกับหม่อมซีริล (Ceril Mary Georgina Heycock) ซึ่งหม่อมทั้งสองเป็นชาวอังกฤษและพระสหายร่วมชั้นเรียนศิลปะของพระองค์พีระ เมื่อเสกสมรสแล้ว บ่าวสาวทั้งสองคู่ได้เดินทางฮันนีมูนกลับมายังประเทศไทย โดยเดินทางด้วยเรือโดยสารเดินสมุทรของบริษัทเดินเรืออิตาลี ชื่อ S.S. Conte Verde จากอังกฤษ ผ่านคลองสุเอซมายังสิงคโปร์ แล้วเดินทางโดยรถไฟจากสิงคโปร์เข้าสู่ดินแดนสยามที่สถานีปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา แวะพักผ่อนที่ตำหนักจักรพงษ์ ชายหาดหัวหิน ก่อนจะเดินทางสู่กรุงเทพฯ


ภาพยนตร์ส่วนพระองค์เรื่องนี้ มี 4 ม้วน สองม้วนแรกเป็นฟิล์มสี สองม้วนหลังเป็นฟิล์มขาวดำ แต่ละเหตุการณ์มีการถ่ายข้อความบอกหัวข้อแทรกเป็นระยะ ความยาวรวมทั้งสิ้นราว 40 นาที


ม้วนที่ 1 เริ่มด้วยงานเลี้ยงกลางวันในพิธีแต่งงานของทั้งพระองค์จุลและพระองค์พีระ มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่อยู่ด้วยกันกับพระองค์จุล คือ พระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ พระเชษฐาของพระองค์พีระ พระชายาทั้งสองและครอบครัว เป็นบรรยากาศที่ชื่นมื่น จบด้วยแจกันดอกกุหลาบแดงบนโต๊ะ จากนั้นเป็นการเสด็จพระดำเนินจากอังกฤษมาสยาม โดยเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ บ่าวสาวทั้งสองคู่และพระองค์อาภัสเสด็จมาด้วย แวะที่ปารีส ผ่านคลองสุเอซ พระอริยาบทพักผ่อนบนดาดฟ้าเรือ เล่นน้ำทะเลในเรือ เสด็จพระดำเนินขึ้นฝั่งเดินชมเมืองโคลอมโบที่เกาะลังกา


ม้วน 2 เรือเดินทางต่อ ทั้งสองคู่ทรงฟังคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่เรือเกี่ยวกับอุปกรณ์เดินเรือบนสะพานเดินเรือ จากนั้นตัดมาที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ คณะเดินทางต่อเข้าสยามโดยรถไฟ ได้แวะพักที่หัวหิน ประทับที่ตำหนักของพระองค์จุลที่ชายหาดหัวหิน หม่อมเอลิซาเบธลงเล่นน้ำทะเล ชมชายหาดและหมู่บ้านประมง จากนั้นตัดไปที่งานวันเกิดหม่อมเอลิซาเบธ ที่บ้านจักรพงษ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ หม่อมเอลิซาเบธโปรยเศษสตางค์เป็นทานแก่พวกเด็ก ๆ ชายหญิงที่มาชุมนุมกันหลายสิบคน ปล่อยนกและปล่อยปลาตามประเพณีไทย จากนั้นเห็นพระองค์จุลทรงขับรถยนต์เด็กเล่นสีแดงที่ได้รับเป็นของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในสมัยที่ยังทรงพระเยาว์ ต่อมาพระองค์พีระทรงขับรถนั้นบ้าง เป็นภาพที่น่าดูยิ่งสำหรับนักแข่งรถอาชีพระดับโลกขณะทรงขับรถเด็กเล่น 


จากนั้นเป็นเหตุการณ์งานเลี้ยงน้ำชายามบ่ายที่พระองค์จุลทรงจัดถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลและครอบครัว ที่บ้านจักรพงษ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล สมเด็จพระราชชนนี สมเด็จพระพี่นางเธอ และสมเด็จพระอนุชา เสด็จนิวัติสยามครั้งแรกหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ รถยนต์พระที่นั่งเข้ามาจอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระอนุชา พร้อมด้วยสมเด็จพระราชชนนีและพระพี่นางเธอเสด็จลงจากรถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ 13 พรรษา และระอนุชา 11 พรรษา ทรงขับรถเด็กเล่นของพระองค์จุลอย่างเกษมสำราญ จากนั้นเห็นพระองค์พีระทรงขับเรือยนต์เร็วนำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและครอบครัวประพาสแล่นไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเป็นเหตุการณ์ที่หัวหิน พระองค์จุลและคณะเสด็จกลับไปพักผ่อนที่บ้านริมทะเลหัวหินอีก และมีกิจกรรมทรงเล่นน้ำทะเลและทรงเล่นกอล์ฟ


ม้วน 3 เป็นฟิล์มขาวดำ มีอาการเสื่อมสภาพ ไม่มีตัวอักษรไตเติล เป็นกิจกรรมที่พระองค์จุลและคณะเสด็จประพาสนครวัด และล่องเรือในทะเลสาบเขมร 


ม้วน 4 เป็นฟิล์มขาวดำ มีอาการเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับม้วน 3 เริ่มต้นด้วยตัวอักษรไตเติล หลังจากนั้นเป็นภาพพระองค์จุลเสด็จไปรับอาคันตุกะต่างชาติที่สนามบิน จากนั้นบันทึกเหตุการณ์ที่พระองค์จุลและคณะเสด็จโดยเรือขึ้นแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทอดพระเนตรวังโบราณ เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดมงคลบพิตร เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการพักผ่อนและทรงเล่นน้ำทะเลที่ตำหนักริมทะเลหัวหินอีกครั้ง


ภาพยนตร์ส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เฉพาะเรื่องที่เลือกมานี้ นับว่ามีคุณค่านอกเหนือจากเป็นผลงานของบุคคลที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ชาติและมีชื่อเสียงระดับสากล ยังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของเจ้านายชั้นสูงของไทยที่ทรงเจริญวัยและใช้ชีวิตในต่างประเทศ โดยเฉพาะพระองค์จุลซึ่งทรงเป็นนักเขียนและได้ทรงแต่งหนังสือเล่าชีวประวัติของพระองค์เองอย่างละเอียด ภาพยนตร์นี้อาจช่วยให้ผู้ชมเห็นบุคลิกของพระองค์ได้มากกว่าการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว