ฟิล์ม 35 มม. / สี / เสียง / ความยาว 134 นาที
วันออกฉาย 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531
บริษัทสร้าง ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
ผู้อํานวยการสร้าง เจริญ เอี่ยมพึ่งพร
ผู้กํากับ รุจน์ รณภพ
ผู้เขียนบท ภรณ์รวี จากบทประพันธ์ “คู่กรรม” ของ ทมยันตี
ผู้ถ่ายภาพ พิพัฒน์ พยัคฆะ
ผู้ลำดับภาพ รินทร์
ผู้กำกับศิลป์ วีรพงศ์ ธาราศิลป์
ผู้ทำดนตรีประกอบ ตามพันธ์ บุนนาค
ผู้แสดง วรุฒ วรธรรม, จินตหรา สุขพัฒน์, เกรียงไกร อุณหะนันทน์, นัย สุขสกุล, อดุลย์ ดุลยรัตน์, พิราวรรณ ประสพศาสตร์, ไกรลาศ เกรียงไกร, สมศักดิ์ ชัยสงคราม, ปฐมชัย ชมสีเมฆ, มาเรีย เกตุเลขา, บรรเจิดศรี ยมาภัย, บัณฑิต ฤทธิ์ถกล, อุดม โรจน์อนันต์เลี่ยว, มานิด อัชวงศ์
“คู่กรรม” เป็นผลงานนวนิยายอันโด่งดังของ ทมยันตี หรือ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ที่เริ่มเขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2508 และจัดพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 เล่าเรื่องราวความรักที่มาพร้อมกับความขัดแย้งทางการเมือง และจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ระหว่าง อังศุมาลิน หญิงสาวชาวไทย กับ โกโบริ นายทหารญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเข้ามายังประเทศไทย ชะตาชีวิตของตัวละครเอกทั้งสองได้สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้อ่านและทำให้นวนิยายเรื่องนี้อยู่ในความรับรู้ของคนไทยมายาวนาน รวมทั้งกลายเป็นวรรณกรรมที่ได้รับการนำมาสร้างเป็นมหรสพบันเทิงประเภทต่าง ๆ ทั้งภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และละครเวที อย่างต่อเนื่องมากมายหลากหลายฉบับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


กล่าวเฉพาะภาพยนตร์ มีผู้นำบทประพันธ์เรื่อง “คู่กรรม” มาสร้างถึง 4 ครั้ง โดยฉบับที่สร้างครั้งที่สอง ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2531 นับเป็นฉบับที่ประสบความสำเร็จและได้รับการจดจำมากที่สุดฉบับหนึ่ง โดยเฉพาะนักแสดงผู้รับบทโกโบริ คือ วรุฒ วรธรรม ซึ่งแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เขาได้รับทั้งรางวัลตุ๊กตาเงิน ดาวรุ่งฝ่ายชาย และได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ทั่วประเทศอย่างมหาศาลเป็นปรากฏการณ์ จนทำให้บทโกโบริกลายเป็นภาพจำที่ติดตัวเขาไปจนสิ้นชีวิต ในขณะที่บทอังศุมาลิน แสดงโดย จินตหรา สุขพัฒน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของบริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น การรับบทนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรก ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม หลังจากที่เคยได้รับรางวัลสุพรรณหงส์จากเรื่องอื่น ๆ มาก่อน
จุดเด่นสำคัญของภาพยนตร์ คู่กรรม ฉบับนี้คือ การลงทุนสร้างฉากเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้แม่นยำและดูสมจริง โดยผู้กำกับ รุจน์ รณภพ ได้ใช้เวลาหลายเดือนในการเขียนบทและเตรียมงานสร้าง ทั้งปรึกษากับผู้ประพันธ์คือ ทมยันตี รวมถึง สมวงศ์ ทิมบุญธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ฉบับแรก ตลอดจนศึกษาข้อมูลในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้นำฟุตเทจภาพเคลื่อนไหวในอดีตมาใช้ประกอบในภาพยนตร์ ฟุตเทจสำคัญที่นำมาใช้เพื่อแสดงให้เห็นภาพประเทศไทยในช่วงทศวรรษ 2480 คือภาพยนตร์สารคดีญี่ปุ่นที่เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ. 2481 เรื่อง คล้องช้าง ซึ่งหอภาพยนตร์ได้รับมอบจากสำนักงานบำรุงทหาร จังหวัดทหารบกลพบุรี มาอนุรักษ์ไว้ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงนับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ผู้สร้างได้มาค้นคว้าและนำฟุตเทจจากคลังอนุรักษ์ของหอภาพยนตร์ไปใช้ประกอบเรื่องด้วย

ความพิถีพิถันในด้านงานสร้าง ส่งผลให้ คู่กรรม ฉบับปี พ.ศ. 2531 ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองทั้งสาขาออกแบบและจัดเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และฉากยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลใหญ่ที่สุดคือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในขณะเดียวกันยังเป็นที่นิยมของประชาชน สามารถทำรายได้สูงถึงเกือบสิบล้านบาท แม้จะไม่ใช่หนัง คู่กรรม ฉบับแรก แต่ก็นับเป็นฉบับที่เก่าแก่ที่สุดที่มีฟิล์มภาพยนตร์หลงเหลืออย่างครบสมบูรณ์เท่าที่มีการค้นพบในปัจจุบัน รวมทั้งมักได้รับการจัดอยู่ในลำดับต้น ๆ เสมอ เมื่อมีการจัดอันดับภาพยนตร์ คู่กรรม ในดวงใจผู้ชม