ฟิล์ม 16 มม. / สีและขาวดำ / เงียบ / ความยาว 25 นาที
ปีสร้าง 2492
ผู้สร้าง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ณ ประเทศอังกฤษ ภายหลังจากที่ทรงสละราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2477 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงจัดการพระบรมศพเป็นการภายใน โดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคลอมพ์ตัน ซึ่งเป็นที่ประทับและที่สวรรคต รัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้อัญเชิญพระบรมศพประดิษฐานเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้พระประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลได้มาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย
วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2484 ได้อัญเชิญพระบรมศพขึ้นประดิษฐานบนรถที่ตกแต่งอย่างงดงาม มีธงมหาราชคลุมพระบรมศพ และเชิญพระชัยวัฒน์ไว้เบื้องพระเศียร ขบวนเคลื่อนออกจากพระตำหนักคลอมพ์ตันไปยังสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ สุสานโกลเดอร์สกรีน ทางเหนือของกรุงลอนดอน การจัดการพระบรมศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการบำเพ็ญพระราชกุศลทางศาสนาพุทธเนื่องจากไม่มีพระภิกษุ และไม่มีการพระราชพิธีอื่น ๆ ตามราชประเพณี
หลังจากถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จสิ้นแล้ว พระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารได้รับการอัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังพระตำหนักคลอมพ์ตัน ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์ในประเทศอังกฤษ ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 รัฐบาล โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ขอพระราชทานให้อัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับสู่ประเทศไทย เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานร่วมกับสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในพระบรมมหาราชวัง
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงมีพระราชนิยมในการถ่ายภาพยนตร์สมัครเล่นตามพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมาตั้งแต่เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงครองราชสมบัติ ทรงถ่ายภาพยนตร์สมัครเล่น 16 มม. ด้วยพระองค์เองบ้าง แต่ส่วนใหญ่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงถ่ายเป็นหลัก เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีมิได้ทรงละพระราชนิยมนี้ แต่ทรงโปรดให้เจ้านายใกล้ชิดเป็นผู้ถ่ายภาพยนตร์ส่วนพระองค์ต่อไป ตั้งแต่ยังประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ จนเมื่อเสด็จนิวัติประเทศไทย และประทับที่วังสวนบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี ก็ยังทรงโปรดให้ช่างถ่ายภาพยนตร์ส่วนพระองค์เสมอมา
หอภาพยนตร์ได้รับมอบฟิล์มภาพยนตร์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีจำนวนหนึ่งจากวังสวนบ้านแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2528 ซึ่งในเวลานั้นเป็นวิทยาลัยครูจันทบุรี ในจำนวนนั้นมีฟิล์มที่บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับการอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากอังกฤษกลับมาประเทศไทย รวม 3 ม้วน เป็นฟิล์มสี 1 ม้วน มีชื่อลำลองว่า “พระบรมอัฐิ” และฟิล์มขาวดำ 2 ม้วน มีชื่อลำลองว่า “ขบวนแห่พระบรมอัฐิ” ซึ่งมิได้มีชื่อเรื่องอย่างเป็นทางการ หอภาพยนตร์จึงได้รวมฟิล์มทั้งสามม้วนเป็นเรื่องเดียวกัน และตั้งชื่อใหม่ว่า “[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิ ร.7 จากลอนดอนกลับประเทศไทย]”
ม้วนที่ 1 เป็นฟิล์มสี บันทึกเหตุการณ์พิธีอัญเชิญพระบรมอัฐิลงเรือโดยสารที่ประเทศอังกฤษ และบันทึกพระราชอิริยาบถของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีและข้าราชบริพารระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทร จนกระทั่งถึงสิงคโปร์ และเสด็จเปลี่ยนไปประทับเรือภาณุรังษี เพื่อเดินทางสู่เกาะสีชัง จากนั้นเสด็จเปลี่ยนประทับเรือรบหลวงแม่กลอง เพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย
รายละเอียดในม้วนฟิล์มสีนี้ บันทึกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 เสด็จออกจากพระตำหนักคอมพ์ตัน แห่งเวอร์จิเนียวอเตอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไปยังท่าเรือเซาท์แทมป์ตัน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษได้จัดพิธีส่งเสด็จอย่างสมพระเกียรติ โดยมีกองทหารเกียรติยศรับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงตรวจแถวทหาร ก่อนเสด็จขึ้นประทับเรือโดยสาร “วิลเฮ็ม ไรส์” (Wilhelm Ruys) ของบริษัท Royal Rotterdam Lloyd ซึ่งประดับธงมหาราชที่เสากระโดงเรือภาพยนตร์บันทึกพระราชอิริยาบถของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีและผู้ตามเสด็จตลอดการประทับในเรือ พร้อมบันทึกเส้นทางเดินเรือที่ผ่านเป็นระยะ จนกระทั่งมาถึงท่าเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 รัฐบาลอังกฤษได้จัดกองทหารเกียรติยศรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ และทรงตรวจพลรับการเคารพ จากนั้นเสด็จเปลี่ยนประทับเรือ “ภาณุรังษี” ซึ่งรัฐบาลไทยเช่ามาจากบริษัทอีสต์เอเชียติก เพื่อนำเสด็จจากสิงคโปร์สู่เกาะสีชัง ภาพยนตร์ม้วนแรกสิ้นสุดเพียงเท่านี้
เหตุการณ์ที่ไม่ปรากฏในภาพยนตร์คือ เรือภาณุรังษีเดินทางถึงเกาะสีชังเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานในกล่องหินอ่อน เปลี่ยนลงบรรจุในพระโกศทองคำ จากนั้นจึงอัญเชิญลงเรือรบหลวงแม่กลองของราชนาวีไทย แล่นเข้าสู่กรุงเทพมหานครทางแม่น้ำเจ้าพระยา และเทียบท่าที่ท่าราชวรดิฐ
ม้วนที่ 2 เป็นฟิล์มขาวดำ บันทึกเหตุการณ์ในเรือรบหลวงแม่กลอง และเมื่อเรือเทียบท่าราชวรดิฐ มีขบวนแห่พระบรมอัฐิจากท่าราชวรดิฐเข้าสู่พระบรมมหาราชวังรายละเอียดในม้วนฟิล์มขาวดำนี้ บันทึกเหตุการณ์วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 เริ่มต้นเมื่อเรือรบหลวงแม่กลองที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี และพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จถึงท่าราชวรดิฐ ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จเต็มสองฟากถนนหน้าพระบรมมหาราชวัง ขบวนแห่ทหารและขบวนพระที่นั่งราเชนทรยานเคลื่อนออกจากประตูพระบรมมหาราชวังไปยังท่าราชวรดิฐ ซึ่งมีปะรำและพลับพลาอยู่ ณ ที่นั้น เห็นเจ้าพระยารามราฆพอยู่ในพลับพลากับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เรือรบหลวงแม่กลองแล่นเข้าเทียบท่า เห็นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีประทับอยู่บนกราบเรือ ในขณะนั้น กรมขุนชัยนาทนเรนทร ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จมาถึงพลับพลา พร้อมด้วยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และภริยา ตลอดจนเหล่ารัฐมนตรีและข้าราชการชั้นสูง
เมื่อได้เวลาอันสมควร กรมขุนชัยนาทนเรนทรเสด็จขึ้นไปยังเรือรบหลวงแม่กลอง นายรองสนิท (สมสวาสดิ์) โชติกเสถียร ข้าราชบริพารใกล้ชิดในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิลงจากเรือ โดยมีกรมขุนชัยนาทนเรนทรเสด็จตามพระโกศพระบรมอัฐิ ตามด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี และพระบรมวงศานุวงศ์จากนั้นอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งราเชนทรยาน เพื่อแห่เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
ภาพยนตร์บันทึกให้เห็นประชาชนเนืองแน่นตลอดสองฟากฝั่งถนนที่เฝ้ารับเสด็จ จวบจนขบวนแห่เข้าสู่ภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อขบวนแห่มาถึงหน้าพระที่นั่งจักรี นายรองสนิทได้อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ หอพระบรมอัฐิ กรมขุนชัยนาทนเรนทร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี และข้าราชการ ได้ตามเสด็จในพิธี
ตอนท้ายของภาพยนตร์ กรมขุนชัยนาทนเรนทรเสด็จขึ้นรถพระที่นั่งกลับออกไป และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเสด็จโดยรถพระที่นั่งไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม และท่านผู้หญิงลงจากรถยนต์ภายในพระบรมมหาราชวัง ภาพยนตร์จบลงเพียงเท่านี้
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานอุทิศถวายตามพระราชประเพณีในวันที่ 25-26 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 โดยอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ หอพระบรมอัฐิ ชั้นบนของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2492 ได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไปบรรจุ ณ พุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์
แม้ภาพยนตร์นี้เป็นภาพยนตร์ส่วนพระองค์ที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงให้ข้าราชบริพารถ่ายไว้เป็นบันทึกความทรงจำส่วนพระองค์ แต่ความทรงจำนั้นเป็นความทรงจำแห่งอารมณ์ที่มีความหมายหลายมิติในประวัติศาสตร์ชาติ