อำนวยการสร้าง : มูฟวิ่งพิกเจอร์
กำกับ : เพิ่มพล เชยอรุณ
ถ่ายภาพ : -
นำแสดงโดย : สรพงษ์ ชาตรี, สุพรรณ บูรณพิมพ์, ปาริชาติ บริสุทธิ์, สีเทา
เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองต่อจาก “ชีวิตบัดซบ” ของ เพิ่มพล เชยอรุณ และทีมงาน หลังจากที่ผันตัวเองจากวงการภาพยนตร์โฆษณาเข้ามาสู่ภาพยนตร์บันเทิง ในระยะที่วงการหนังไทยเบ่งบาน เพราะมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศของรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวู้ดคว่ำบาตรไม่ส่งหนังเข้ามาฉาย ตลาดภาพยนตร์จึงเกิดช่องว่างให้ผู้สร้างหนังไทยผลิตหนังป้อนตลาดแทนที่
“เมืองในหมอก” เป็นการดัดแปลงบทละครเรื่อง “ความเข้าใจผิด” ของอัลแบร์ กามูส์ มาเป็นภาพยนตร์ไทย ซึ่งที่ผ่านมาพวกทำละครเวทีในรั้วมหาวิทยาลัยมักนำบทละครตะวันตกเหล่านี้มาเล่นเสมอ
บทละคร เล่าถึงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งแสนทุรกันดาร ห่างไกลจากความเจริญ ผู้คนแล้งน้ำใจ และข่มเหงเบียดเบียนกัน มีแม่และลูกสาวบ้านหนึ่ง ทำกิจการที่พักแรมเล็ก ๆ แต่เบื้องหลังคือทั้งสองคนกับคนรับใช้ได้จัดการฆ่าแขกทุกรายที่มาพักเพื่อเก็บทรัพย์สินของเหยื่อ กะว่าได้มากพอแล้วจะออกจากเมืองอันน่าหดหู่นี้ไป เพื่อตามหาลูกชายของบ้านที่หายสาบสูญไปเกือบยี่สิบปีแล้ว จนมาถึงวันที่แขกคนสุดท้ายที่สองแม่ลูกกะจะทำเป็นครั้งสุดท้ายมาถึง ไม่มีใครคิดว่าแขกคนนี้คือลูกชายที่กลับมาและไม่ยอมเปิดเผยตัว
เพียงแต่ว่า แทนที่เพิ่มพลจะดัดแปลงเรื่องให้เกิดในประเทศไทย เขากลับทำฉากให้ดูเหมือนว่าเป็นเมืองกันดารแปร่ง ๆ ที่ใดที่หนึ่งในโลก ซึ่งดูเหมือนไม่ใช่ประเทศไทย
กรอบเวทีละครที่จำกัดแคบเมื่อปรับมาเป็นกรอบภาพหรือกรอบจอหนังที่มีอิสระไร้ขอบเขต ถึงอย่างไรก็เพื่อทำหน้าที่สื่อสารเรื่องเล่าเดียวกัน หรือที่สำคัญกว่าคือแก่นหรือธรรมบทเดียวกัน อันจะเกิดขึ้นที่ใดหรือแม้แต่ยุคสมัยใดก็ได้ นั่นคือธรรมบทว่าด้วยจิตใจของมนุษย์ ความกลัว ความเกลียด ความโลภ โลภะ โทสะ โมหะ ความฉ้อฉล ซึ่งว่าไปแล้วในก้นบึ้งจิตใจมนุษย์มีอยู่สองอย่างคือใฝ่ต่ำและใฝ่สูง หนังแสดงน้ำใจมนุษย์ที่ใฝ่ไปทางต่ำเพื่อเรียกร้องอีกด้านหนึ่ง คือ ความเมตตา กรุณา ความละอาย ให้สะท้อนขึ้นในจิตใจของคนดูหรือไฉน และด้วยความเชื่อแบบพุทธไทย ๆ เราอาจเห็นว่านี้เป็นบาปเป็นกรรมที่ครอบครัวนี้ได้รับ
เมื่อหนังออกฉายในปี 2521 ดูเหมือนไม่ได้รับการต้อนรับจากแฟนภาพยนตร์นัก ผู้กำกับหนังให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า เขาใช้หัวหรือสมองและตั้งใจทำหนังเรื่องนี้มาก แต่คนดูไม่ยอมรับ หนังเรื่องต่อมาของเขา (เมืองขอทาน ขี้กลากคอนกรีต) จึงแก้เผ็ดด้วยการใช้เท้าทำ ปรากฏว่าคนดูชอบ
ความสำคัญของเมืองในหมอก ก็คือความที่มันมลังมเลือง และใช้เป็นตัวชี้วัดรสนิยมของคนดูและคนสร้างศิลปได้หรือไม่