โหมโรง

ความยาว 101 นาที

ฟิล์ม 35 มม. / สี / เสียง 

อำนวยการสร้าง สหมงคลฟิล์ม, พร้อมมิตรโปรดักชั่น, ภาพยนตร์หรรษา และกิมมิคฟิล์ม

กำกับ อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์

นักแสดง อนุชิต สพันธุ์พงษ์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, อาระตี ตันมหาพราน, ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง


ในยุคที่ชะตาชีวิตของหนังไทยเรื่องหนึ่ง อยู่ที่รายได้เพียง 4 วันแรกฉาย “โหมโรง” ก็เกือบจะชะตาขาด แต่ด้วยกลยุทธ์การรณรงค์บอกต่อในสังคมอินเตอร์เน็ต ก่อให้เกิดการโฆษณาแบบปากต่อปากและช่วยยืดชีวิตให้โหมโรง สามารถยืดโปรแกรมฉายออกไปได้นานขึ้น ครู อาจารย์ต่างนำคณะนักเรียนไปดูในโรงภาพยนตร์ อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ ซึ่งห่างหายจากวงการภาพยนตร์ไทยไปเป็นเวลานาน หลังการกำกับภาพยนตร์เรื่อง ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด และไปเอาดีด้านโทรทัศน์ ได้กลับมาสร้างภาพยนตร์อีกครั้ง ในยุคที่หนังตลกและหนังผีครองตลาดภาพยนตร์ อิทธิสุนทรสวนกระแสโดยการนำอัตชีวประวัติของ “หลวงประดิษฐไพเราะ” ราชทินนามของ “ศร ศิลป-บรรเลง” บรมครูดนตรีไทยในยุครัตนโกสินทร์ ก่อให้เกิดกระแสเชิดชูความเป็นไทยที่ห่างหายไปนานจากจอภาพยนตร์ ภาพยนตร์ได้รับรางวัลมากมายจากในประเทศ และได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมพ.ศ. 2429 


ศร เด็กหนุ่มที่มีความผูกพันกับดนตรีไทยมาตั้งแต่เกิด ได้รับการถ่ายทอดฝีมือในการตีระนาดเอกจาก ครูสิน ผู้ซึ่งเป็นทั้งบิดาและครูสอนดนตรีไทย ศรกลายเป็นดาวเด่นในเชิงระนาดเมื่อก้าวเข้าสู่วัยหนุ่ม ฝีมือของศรยากหาใครทัดเทียมในอัมพวาหลังจากชนะประชันครั้งแล้วครั้งเล่า ศรจึงลำพองใจในฝีมือของตนเอง จนเมื่อศรเดินทางเข้ามายังบางกอก เขาพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกต่อขุนอิน ผู้มีทางระนาดที่ดุดัน ศรสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองและหมกมุ่นขังตัวฝึกซ้อมระนาด จนกระทั่งหาทางระนาดของตัวเอง


จนเจอ ศรมีโอกาสได้รับการอุปถัมภ์ให้เป็นนักดนตรีประจำราชสำนัก ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์ไพเราะ และเมื่อได้ประชันระนาดกับขุนอินอีกครั้ง ก็สามารถเอาชนะได้ กระทั่งล่วงเข้าสู่วัยชรา ศรกลายเป็นครูดนตรีอาวุโสของเมืองไทย แต่ขณะนั้นเป็นช่วงที่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามมีนโยบายปรับปรุงประเทศให้มีความทันสมัย และออกระเบียบควบคุมศิลปะแขนงต่าง ๆ รวมทั้งดนตรีไทย โดยมี พันโทวีระ นายทหารหนุ่มที่รับหน้าที่ดูแลนโยบายดังกล่าว ศรจึงต้องต่อสู้กับทัศนคติของพันโทวีระพร้อม ๆ


กับความคิดของรัฐบาล ด้วยการปรับประสานดนตรีให้ร่วมสมัย รวมถึงคงไว้ซึ่งบทประพันธ์เพลงดั้งเดิมมากมาย จนดนตรีไทยสามารถอยู่รอดจากการถูกทำลายมาได้ถึงทุกวันนี้