ผู้กลับใจและผู้ถูกจับกุมในภาพยนตร์ข่าวโทรทัศน์: สนามการต่อสู้เรื่องการนำเสนอของรัฐไทยต่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

คอลเลกชันภาพยนตร์ข่าวจากสถานีโทรทัศน์ในคลังหอภาพยนตร์ที่ให้บริการในปัจจุบัน ครอบคลุมช่วงปี 2502-2526 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ประเทศไทยเผชิญความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยภายในและกระแสโลก ภาพยนตร์เหล่านี้บันทึกเหตุการณ์สำคัญ เช่น การใช้อำนาจรัฐอย่างเข้มข้นภายใต้ จอมพล สฤษดิ์ และ จอมพล ถนอม การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความทันสมัย และความขัดแย้งทางอุดมการณ์ในบริบทสงครามเย็น


พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ก่อตั้งในปี 2485 แม้ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย แต่เคลื่อนไหวตามแนวคิดสร้างความเสมอภาคในสังคมและต่อต้านระบบทุนนิยมผ่านยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” โดยเน้นการจัดตั้งชาวนาในชนบทและหลีกเลี่ยงการปะทะกับรัฐ จนกระทั่งวันที่ 7 สิงหาคม 2508 เกิดการปะทะด้วยอาวุธครั้งแรกกับตำรวจที่บ้านนาบัว อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ต่อมา พคท. ประชุมที่ภูพานมีมติประกาศต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้การปราบปรามของรัฐ โดยถือวันที่ 7 สิงหาคม 2508 เป็น “วันเสียงปืนแตก”


ในอีกด้านหนึ่ง การเกิดขึ้นของพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 และ 2512 รวมถึงคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (ฉบับที่ 25) 17 ตุลาคม 2519 เป็นเครื่องมือควบคุม ตรวจสอบ จับกุม ควบคุมตัว และลงโทษบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ถูกมองว่ามีแนวคิดหรือพฤติกรรมเข้าข่ายคอมมิวนิสต์ โดยไม่ต้องมีหลักฐานชัดเจน เปิดช่องให้รัฐกวาดล้างผู้เห็นต่างและควบคุมความคิดทางการเมืองอย่างเข้มงวด


กลุ่มคนบางส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ปัญญาชน เกษตรกร แรงงาน ที่ได้รับผลคุกคามจากการใช้กฎหมาย และผู้มีแนวคิดแตกต่างจากรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ได้ตัดสินใจเข้าป่า หรือเข้าร่วมกับขบวนการของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นถูกมองว่าเป็นทางเลือกใหม่ทางการเมืองและสังคม ท่ามกลางความผิดหวังต่อระบบการเมือง ความเหลื่อมล้ำ และการใช้อำนาจของรัฐ


การต่อสู้ระหว่างรัฐไทยกับผู้มีแนวคิดต่างไม่จำกัดอยู่แค่ในสนามรบ หากยังปรากฏในพื้นที่สื่อ สื่อมวลชนในยุคนั้น โดยเฉพาะสื่อของรัฐหรือสื่อที่ได้รับข้อมูลจากรัฐ จึงมีบทบาทในการนำเสนอภาพของ “ภัยคุกคาม” และตอกย้ำความชอบธรรมของรัฐในการควบคุมสถานการณ์


คอลัมน์คลังอนุรักษ์ฉบับนี้รวบรวมภาพยนตร์ข่าวและสารคดีที่ฝ่ายรัฐนำเสนอบุคคลที่เป็น “สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” และ “คนที่ตัดสินใจเข้าป่า” ในฐานะ “ผู้กลับใจ” และ “ผู้ถูกจับกุม” ซึ่งถูกนำเสนอในลักษณะที่สะท้อนชัยชนะทางนโยบายของรัฐ โดยเฉพาะการชูภาพของผู้ที่ “กลับใจ” หรือ “ยอมรับข้อเสนอของรัฐ” ทั้งก่อนและหลังการเกิดขึ้นของนโยบาย 66/23 ซึ่งมักถูกใช้เป็นหลักฐานของความสำเร็จในการบริหารจัดการปัญหาความมั่นคง


พล.ท. กฤช ปุณณกันต์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ จัดการสัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายต่อหน้าสื่อมวลชน ที่กรมประชาสัมพันธ์ 

(ขาวดำ/เสียง) ความยาว 6.18 นาที โดยช่อง 4



ภาพ: นายพิชัย วาสนาส่งเป็นโฆษกในการสัมภาษณ์พิเศษผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ 1 ธันวาคม 2509 กรมประชาสัมพันธ์


ในวันที่ 1 ธันวาคม 2509 กรมประชาสัมพันธ์ ถนนราชดำเนินกลาง พล.ท. กฤช ปุณณกันต์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานในการสัมภาษณ์พิเศษผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่ถูกจับได้ 2 คน พิชัย วาสนาส่ง ผู้ประกาศและพิธีกรชื่อดังคนหนึ่งของทีวีช่อง 4 เล่าประวัติและซักถาม ผกค. ถึงเหตุผลการเดินทางไปรับการอบรมที่ต่างประเทศ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การชักชวนคนเข้าร่วม ความน่าสนใจคือ วันที่ 1 ธันวาคม 2485 เป็นวันก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การกำหนดวันจัดการสัมภาษณ์นี้ ถ้าไม่บังเอิญก็น่าจะมีความหมายของการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ที่มีต่อ พคท. ด้วย


เยาวชนและผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่กลับใจ บ้านด่าน ตำบลสวาท อำเภอเลิงนกทา จังหวัดอุบลราชธานี รำถวายพระพร เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2510

(ขาวดำ/เสียง) ความยาว 16.29 นาที โดยกองบัญชาการปราบปรามคอมมิวนิสต์



ภาพ: เยาวชนและผู้กลับใจรำถวายพระพรหน้าที่ว่าการอำเภอเลิงนกทา 5 ธันวาคม 2510


ภาพยนตร์สารคดี จัดสร้างโดยกองบัญชาการปราบปรามคอมมิวนิสต์ (บก.ปค.) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม 2508 ด้วยความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา เพื่อประสานงานปฏิบัติการต่อต้านคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศ หน่วยงานดังกล่าวซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ไม่เพียงมีบทบาทปราบปรามคอมมิวนิสต์ด้วยอาวุธ แต่ยังทำงานการข่าวและมวลชนสัมพันธ์ (บางทีเรียกว่าปฏิบัติการจิตวิทยามวลชน) ด้วยการวิเคราะห์สาเหตุการลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐของผู้ต่อต้าน เนื้อหาของสารคดีช่วงต้นบันทึกและเผยแพร่การดำเนินชีวิตของประชาชนที่บ้านด่าน ตำบลสวาท อำเภอเลิงนกทา จังหวัดอุบลราชธานี หลังการดำเนินการปราบปราม ผกค. ตามนโยบายของ พล.อ. ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประภาส จารุเสถียร ผู้บัญชาการกองปราบปรามคอมมิวนิสต์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ ผกค. ที่กลับใจสามารถกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัว พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เห็นได้จากภาพประชาชนช่วยกันสร้างอาคารไม้ขนาดใหญ่ และกรมการแพทย์ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกทำการรักษาพยาบาล นอกจากนี้มีการพัฒนาแหล่งน้ำ ขุดบ่อเพื่อไว้ใช้อุปโภคบริโภค รดน้ำพืชผักสวนครัวไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือนและเพื่อจำหน่าย ผู้บรรยายได้บรรยายถึงการประกอบอาชีพโดยไม่มีภัยคุกคาม ทำให้หมู่บ้านเกิดความเจริญ และใช้เพลง รักเมืองไทย ซึ่งเป็นเพลงปลุกใจประกอบเรื่อง จากนั้นนายอำเภอเลิงนกทากล่าวว่า ประชาชนมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำให้ประชาชนผู้หลงผิดกลับใจมาเป็นพลเมืองดีของชาติ ในตอนท้ายของสารคดี ผู้กลับใจและเยาวชนจึงได้ร่วมกันน้อมเกล้าฯ ถวายพระพร เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยการรำถวายพระพรบริเวณหน้าที่ทำการอำเภอเลิงนกทา


การสัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่จังหวัดราชบุรีซึ่งกลับใจมาเข้าร่วมกับรัฐบาล ณ กรมประชาสัมพันธ์ 

(ขาวดำ/เสียง) ความยาว 5.52 นาที โดยช่อง 4


ในวันที่ 11 มกราคม 2511 ณ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนราชดำเนินกลาง พิชัย วาสนาส่ง ผู้ดำเนินรายการ กล่าวแนะนำผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สองคนพี่น้องที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ที่กลับใจและหลบหนีจากกลุ่มมาเข้าร่วมกับรัฐบาล ผู้กลับใจกล่าวถึงเหตุที่เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ และตอบคำถามของผู้สื่อข่าว 


ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานในพิธีบำรุงขวัญผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มอบตัวเพื่อกลับภูมิลำเนา 

(ขาวดำ/เงียบ) ความยาว 5.02 นาที โดยช่อง 4



ภาพ: เจ้าหน้าที่เตรียมจุ่มอาวุธลงในน้ำสำหรับ การเลียนแบบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา 


ในวันที่ 6 กันยายน 2511 ได้จัดพิธีบำรุงขวัญ ผกค. มอบตัวเพื่อกลับภูมิลำเนา โดยมี สายสิทธิ พรแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธี กล่าวนำปฏิญาณตน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์แก่ผู้เข้าร่วมในพิธี เจ้าหน้าที่นำดาบและปืนจุ่มลงในขันน้ำเป็นการทำพิธีเลียนแบบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ผู้เข้ามอบตัวดื่มน้ำเพื่อสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ แล้วกราบพระพุทธรูปและพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ความน่าสนใจคือ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการสาบานตน ยกเลิกไปในปี 2475 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และถูกรื้อฟื้นใหม่อีกครั้งในปี 2512 ได้ถูกทำเลียนแบบขึ้นมาก่อนนั้นเพื่อเป็นพิธีกรรมสาบานตนของผู้กลับใจว่าจะภักดีต่อชาติและพระมหากษัตริย์


ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพูดคุยกับผู้ก่อการร้ายที่เข้ามอบตัว 

(ขาวดำ/เงียบ) ความยาว 1.24 นาที โดยช่อง 4



ภาพ: ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่กลับใจมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์

ข่าวเนื้อหาต่อเนื่อง น่าจะเป็นเหตุการณ์หลังพิธีบำรุงขวัญ สายสิทธิ พรแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานในพิธี พูดคุยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่เข้ามอบตัว สายสิทธิชี้แจงทำความเข้าใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยด้วย


พล.ท. เฉลิมชัย จารุวัสตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะปฏิวัติ นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของทหารตำรวจที่กองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ จังหวัดนครพนม 

(สี/เงียบ) 5.12 นาที โดยช่อง 3


วันที่ 17 มิถุนายน 2515 พล.ท. เฉลิมชัย จารุวัสตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะปฏิวัติ นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของทหารตำรวจที่จังหวัดนครพนม เมื่อเดินทางถึงกองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ พล.ท. เฉลิมชัย จารุวัสตร์ บรรยายโจมตีการค้าขายและรวมกลุ่มของคนญวน และกล่าวถึง ไขแสง สุกใส และ ชวน กิติศรีวรพันธุ์ อดีต สส. จังหวัดนครพนม ว่าเป็นผู้ยุยงส่งเสริมความวุ่นวาย ให้คณะสื่อมวลชนฟัง จากนั้น พล.ต. ยง ณ นคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวบรรยายสถานการณ์ต่าง ๆ ในจังหวัด และนำผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่กลับใจมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ พร้อมอาวุธและสิ่งของต่าง ๆ ที่ยึดได้มาแสดงด้วย 


ร.ต. กิตติ ประทุมแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ชี้แจงแก่ผู้สื่อข่าว  เรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เข้ามอบตัว ณ ห้องรับรอง  ศาลากลางจังหวัดพัทลุง 

(สี/เงียบ) ความยาว 1.29 นาที โดยช่อง 3


วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2523 ร.ต. กิตติ ประทุมแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ชี้แจงแก่ผู้สื่อข่าว เรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เข้ามอบตัว ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ว่าในรอบเดือนมกราคมมี ผกค. เข้ามอบตัวจำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 4 คน 


ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ 

(สี/เสียง) ความยาว 4.06 นาที โดยช่อง 5



ภาพ: ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่มอบตัวในฐานบนพื้นที่ภูเขาของ อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่


ข่าวประจำวัน 13 มกราคม 2524 ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มอบตัว ณ อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ ผู้สื่อข่าวเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เข้าไปยังพื้นที่ภูเขาสูง สามารถมองเห็นพื้นที่เกษตรกรรม แม่น้ำ และป่าไม้เบื้องล่าง ผู้ที่เข้ามอบตัวทั้งหญิงและชายรออยู่บริเวณหมู่บ้าน ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ผกค. ชาย 2 คน รายหนึ่งเล่าว่าตนปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยรบ เข้าร่วมจากการเห็นโฆษณาชวนเชื่อ อีกคนหนึ่งเล่าว่าอยู่ฝ่ายการผลิตตั้งแต่ปี 2521 เนื่องจากในหมู่บ้านไม่มีเจ้าหน้าที่ ตนจึงขาดข้อมูล และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ช่วยดูแลให้มีความอยู่ดีกินดีเมื่อตัดสินใจออกมามอบตัว


การแข่งขันกีฬาฟุตบอลวันปลอบขวัญชาวบ้านย่านแทรกซึมผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ 

(สี/เสียง) ความยาว 4.39 นาที โดยช่อง 5



ภาพ: กิจกรรมฟุตบอลวันปลอบขวัญชาวบ้านย่านแทรกซึมผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ 24 กรกฎาคม 2524

รายงานข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเนื่องในโอกาสวันปลอบขวัญชาวบ้านย่านแทรกซึม ผกค. ณ สนามกีฬาแห่งชาติ จัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2524 เจ้าหน้าที่กล่าวรายงาน ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน นักกีฬาฟุตบอลจากทีมชาติและทีมเยาวชนอายุ 18 ปี ยืนเข้าแถวภายในสนาม วงดุริยางค์ลูกเสือบรรเลงดนตรี ป้ายผ้าชื่องานลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ประธานในพิธีแจกประกาศนียบัตรแก่บุคคลต่าง ๆ จากนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอล ภาพบรรยากาศการแข่งขัน ข้อสังเกตคือไม่ปรากฏการนำเสนอว่าผู้เข้าร่วมงานมาจากย่านแทรกซึมใดบ้าง และไม่ปรากฏภาพการมีส่วนร่วมในการแข่งขันและการมอบประกาศนียบัตรใด ๆ ในภาพยนตร์ข่าวเรื่องนี้


ภาพยนตร์ข่าวเกี่ยวกับการนำเสนอบุคคลซึ่งเป็น “สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” และ “คนที่ตัดสินใจเข้าป่า” ในฐานะ “ผู้กลับใจ” และ “ผู้ถูกจับกุม” ที่นำเสนอในบทความนี้ ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการรับชมได้ที่ห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-17.30 น. (หยุดวันจันทร์) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรับชม

________________________________

โดย ธิติพงษ์ ก่อสกุล
ที่มา: จดหมายข่าวหอภาพยนตร์ ฉบับที่ 88 ประจำเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568