แอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ

ความพิเศษในภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) น่าจะมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจจากทีมที่มีความพยายาม มีฝีมือ และมากประสบการณ์ในญี่ปุ่น รวมถึงวิถีทางของสตูดิโอจิบลิที่ปรารถนาจะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้ความบันเทิงและสื่อสารสิ่งต่าง ๆ ไปถึงผู้ชม ซึ่งแอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลก ความเป็นมนุษย์ และยุคสมัยที่เราดำรงชีวิตอยู่ 


คอลัมน์ห้องสมุดฯ ฉบับนี้แนะนำหนังสือน่าอ่าน Ghibliotheque จากผู้เขียน Michael Leader และ Jake Cunningham ที่พาชมแอนิเมชันของจิบลิ และช่วยเตือนความทรงจำของพวกเราถึงผลงานชิ้นโบแดงอย่าง Princess Mononoke ตัวละครโทโทโร่กับรถบัสแมวใน My Neighbour Totoro และ Spirited Away ผลงานรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชัน 




จุดเริ่มต้นก่อนที่จะเป็นหนังสือเล่มนี้ Michael Leader และ Jake Cunningham ได้ให้ข้อมูลกับผู้ที่สงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับจิบลิมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 ผ่านทางพอดแคสต์ (podcast) ในชื่อรายการ Ghibliotheque โดยเนื้อหารายการพูดถึงแอนิเมชันเรื่องต่าง ๆ ของจิบลิ ประมวลเรื่องราวจากข้อเท็จจริงและการมุ่งมั่นศึกษาแบบเข้มข้นของ Leader ผู้เป็นแฟนตัวยงของจิบลิมาประกอบกับบทวิจารณ์จากมุมมองของ Cunningham ผู้เป็นมือใหม่หัดรู้จักจิบลิ อีกทั้งยังมีการสร้างสีสันด้วยช่วงพูดคุยกับแขกรับเชิญที่เป็นนักทำแอนิเมชัน (animator) นักวิจารณ์ และคนวงในของจิบลิอีกด้วย โดยทั้งพอดแคสต์และหนังสือมีเป้าหมายเหมือนกัน คือการหาจุดตรงกลางของความกระหายใคร่รู้ข้อมูลระหว่างเหล่าแฟนตัวยงกับมือใหม่หัดรู้จักจิบลิ Leader และ Cunningham ผู้เขียนทั้งสองได้สั่งสมประสบการณ์ร่วม 3 ปี สำหรับการทำหนังสือเล่มนี้ด้วยการค้นคว้าข้อมูลอย่างเข้มข้นและอิงจากความเห็นส่วนตัวในทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งพวกเขารวบรวมข้อมูลแอนิเมชัน 24 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ผลงานก่อนก่อตั้งจิบลิ Nausicaä of the Valley of the Wind ไปจนถึงแอนิเมชันสร้างด้วยเทคนิคสามมิติ (3D) เรื่องแรกของจิบลิ Earwig and the Witch 


หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระและอ่านสนุก โดย Leader ได้รวมประวัติและผลงานของจิบลิฉบับครบจบในที่เดียว เช่น ผลงานที่จิบลิพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมาแต่ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นไปดั่งใจหวัง การเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าของ Hayao Miyazaki ถึงเรื่อง “การอำลาวงการ” และ Toshio Suzuki เขาเป็นเพื่อนคู่คิดคนสนิทคนหนึ่งของ Hayao Miyazaki และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งจิบลิ ซึ่งเขาพยายามสร้างคนทำงานรุ่นใหม่ของจิบลิ อีกทั้งถือได้ว่าเขาเป็นพระเอกของความสำเร็จระยะยาวของจิบลิ เพราะในปี ค.ศ. 1996 เขาเคยได้ไปเจรจาต่อรองเรื่องการจัดจำหน่ายภาพยนตร์กับ The Walt Disney Company แม้ว่างานศึกษาของ Leader ที่เนื้อหาอัดแน่นอยู่แล้ว แต่ยังพอมีพื้นที่หน้ากระดาษให้ลงรายละเอียดอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนด้านความคิดสร้างสรรค์มาร่วมหลายสิบปี ก่อนที่จะก่อตั้งจิบลิระหว่าง Hayao Miyazaki กับ Isao Takahata สองคนนี้เป็นทั้งเพื่อน ผู้ร่วมงาน และคู่หูยาวนานถึง 55 ปี มาตั้งแต่การสร้าง Horus, Prince of the Sun (หรือ Little Norse Prince, 1968) จนกระทั่ง Isao Takahata จากไปในปี ค.ศ. 2018 ซึ่งข้อมูลส่วนนี้มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจในประเด็นการขับเคลื่อนและการร่วมก่อตั้งจิบลิในปี ค.ศ. 1985 อย่างไรก็ตามเหล่าทีมงานของจิบลิพากันออกโรงยืนยันว่า แก่นแท้ของความเป็น “สตูดิโอจิบลิ” นั้นไม่ได้อยู่ในตัวของ Hayao Miyazaki เพียงคนเดียว แต่ว่าร่วมก่อตั้งกับเพื่อนนักสร้างภาพยนตร์ Isao Takahata และ Toshio Suzuki ผู้มากความสามารถ เพราะว่าจิบลิต้องการทั้งนักสร้างภาพยนตร์และนักการตลาด นอกจากนี้ Leader ได้เปรียบเปรยให้ Hayao Miyazaki เสมือนเป็น “ผู้สานฝันในทางที่เป็นมิตรกับเหล่าครอบครัว” ส่วนอีกคนหนึ่ง Isao Takahata เป็นเหมือนคนนอกรีตที่พยายามก้าวข้ามเกณฑ์มาตรฐานผลงานของจิบลิด้วยการเล่าเรื่องสะเทือนอารมณ์เกินต้านอย่าง Grave of the Fireflies ผลงานที่แอบฉีกแนวแบบ My Neighbours the Yamadas และการนำเสนอด้านสิ่งแวดล้อมแบบเน้น ๆ ใน Pom Poko 


ส่วนเนื้อหาการพินิจพิเคราะห์ผลงานของจิบลินั้น Cunningham ยึดหลักการวิเคราะห์แบบไม่ลำเอียงมีทั้งติทั้งชม เช่น เขาออกโรงโน้มน้าวเพื่อปกป้อง From up on Poppy Hill ของ Goro Miyazaki ที่เขามีความเห็นว่าเรื่องนี้มีจุดบกพร่องอยู่มาก แต่ก็เป็นการสร้างงานที่ใส่ใจในรายละเอียดสูง นอกจากนั้น การอ่านบทวิจารณ์ของเขาเพียงแค่กวาดตาอ่านแบบผิวเผินก็กระตุ้นให้เกิดความอยากดู Only Yesterday ผลงานอันน่าปลาบปลื้มใจของ Isao Takahata ที่มุ่งเน้นแสดงอารมณ์ แม้จะเป็นผลงานที่อยู่นอกสายตาของผู้ชม หรือหากได้อ่านแบบละเอียดก็จะเห็นถึงความช่ำชองในด้านการกระตุ้นความอ่อนไหวทางความรู้สึกในงานของ Hiromasa Yonebayashi แล้วจะนึกอยากกลับไปดู When Marnie Was There ใหม่อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่า Cunningham มักแสดงความคิดเห็นที่ชอบจับผิดสไตล์ภาษาในแอนิเมชันของจิบลิและอาจจะดูเกินเรื่องไปก็ตาม แต่บทวิจารณ์ของเขาก็ยังคงมีความแปลกใหม่และความเฉพาะตัว




ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ทั้ง Cunningham และ Leader ลงทุนลงแรงกันอย่างมากที่จะศึกษาทั้งผลงานและการจัดจำหน่ายของจิบลิให้ครบทุกซอกทุกมุม พวกเขาทั้งสองยังมีความรอบคอบในการทำให้เนื้อหาส่วนที่อภิปรายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคนิคการทำแอนิเมชันสองมิติ (2D) ของจิบลิให้อยู่ในระดับที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าใจได้อีกด้วย ส่วนการออกแบบรูปเล่มของหนังสือมีความพิถีพิถัน พิมพ์ด้วยกระดาษแบบด้าน (matt) และสีคุณภาพสูงที่ถอดแบบออกมาจากแอนิเมชันโดยตรง ทำให้ผู้อ่านทั่วไปสามารถแยกแยะความต่างระหว่างการใส่รายละเอียดของภาพใน Howl's Moving Castle กับการใช้ลายเส้นหนาและสีอันคมชัดที่ทำให้ Ponyo เด่นทะลุจอได้ 


หนังสือเล่มนี้มีการเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุก ๆ อย่าง เรื่องราวชวนหัวอันเป็นที่เลื่องลือ เช่น เมื่อครั้งช่วงที่ Princess Mononoke จะออกฉายในอเมริกา Toshio Suzuki ส่งดาบซามูไรไปให้ Harvey Weinstein ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ พร้อมแนบคำเตือนว่า “ห้ามตัดต่อเด็ดขาด!” เป็นการเพิ่มสีสันให้เนื้อหาในหนังสือ ส่วนเรื่องที่เล่าตามความจริงถึงประเด็นที่จิบลิต้องต่อสู้ฝ่าฟันอย่างยาวนานเพื่อให้จัดจำหน่ายฉบับภาษาอังกฤษที่ได้คุณภาพและบทภาพยนตร์มีความเหมาะสม ในที่สุดทุกวันนี้เราสามารถดูแอนิเมชันของจิบลิหลาย ๆ เรื่องได้สะดวกทั่วโลกผ่านทาง Netflix และ HBO ก็เป็นสิ่งที่ช่วยย้ำเตือนได้ดีว่าแอนิเมชันของจิบลิเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่ใช้ภาษาอังกฤษกลุ่มใหญ่ได้ 


Ghibliotheque อาจสะท้อนให้เราเข้าใจว่า แอนิเมชันของจิบลิสามารถสัมผัสถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกภายในจิตวิญญาณของเราได้ ทำให้เราจินตนาการอยากมีโลกอีกใบหนึ่ง โลกที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ยังมีความงดงามเสมอ เผลอ ๆ พวกเราอาจจะเชื่อว่าสถานที่นั้น ๆ ในแอนิเมชันของจิบลิมีอยู่จริงที่ไหนสักแห่ง และอยู่ไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงที่เราอยู่ก็ได้  


เขียนโดย วิมลิน มีศิริ

ที่มา: จดหมายข่าวหอภาพยนตร์ ฉบับที่ 74 ประจำเดือน มีนาคม - เมษายน 2566

-----------------

ท่านสามารถอ่านหนังสือ Ghibliotheque เล่มนี้ได้ที่ห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.30 น. - 17.30 น. หรือค้นหาหนังสือและภาพยนตร์ที่ให้บริการในห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี ได้ที่ https://fapot.or.th/main/library