เขียนโดย ประวิทย์ แต่งอักษร :
วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562 เนื่องในวันครบรอบ 124 ปี วันกำเนิดภาพยนตร์โลก และส่งความสุขปีใหม่ หอภาพยนตร์ร่วมกับ Japan Foundation ขอมอบของขวัญด้วยการนำ Seven Samurai เจ็ดเซียนซามูไร หนึ่งในหนังดีที่สุดตลอดกาลของโลก มาจัดฉายที่โรงภาพยนตร์สกาลา หอภาพยนตร์จึงขอเผยแพร่บทความแนะนำภาพยนตร์โดย ประวิทย์ แต่งอักษร ที่เขียนไว้ดังนี้
นับเนื่องจนถึงปัจจุบัน ผลงานมาสเตอร์พีซของอากิระ คุโรซาว่าเรื่อง Seven Samurai ซึ่งออกฉาย ในปีค.ศ. 1954 ก็มีอายุครบ 65 ปี นั่นเป็นระยะเวลาที่เนิ่นนานทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ชมรุ่นหลังที่เกิดหรือเติบโตไม่ทันช่วงเวลา ‘ครองราชย์’ ของคนทำหนังผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นจักรพรรดิแห่งวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น โดยปริยาย เป็นไปได้ที่ใครอาจจะอดนึกคิดไม่ได้ว่าบางที อากิระ คุโรซาว่า และบรรดาผลงานอมตะของเขาซึ่งไล่เรียงกันไม่หวาดไม่ไหวดำรงอยู่ในอีกมิติของยุคสมัยและกาลเวลา และตัดขาดจากความเชื่อมโยงกับหนังที่สร้างทุกวันนี้ซึ่งคล้าย ๆ ว่าไม่มีอะไรเหมือนเมื่อ 60-70 ปีก่อนอีกแล้ว
ส่วนที่น่าทึ่งก็คือ การย้อนกลับไปดูหนังเรื่อง Seven Samurai อีกครั้งยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่า อายุของหนังเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริง ๆ ทว่าแท็กติก ทักษะ ตลอดจนศิลปะในการนำเสนอยังคงคล่องแคล่ว จัดจ้านและแพรวพราว หรือพูดอีกอย่างได้ว่าหนังฮอลลีวูดสมัยนี้เล่าเรื่องกระฉับกระเฉงไม่แตกต่างจาก Seven Samurai จนไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่คนญี่ปุ่นสมัยนั้นจะพากันบ่นว่าหนังของคุโรซาว่าดูเป็นตะวันตกเกินไป ซึ่งว่ากันตามจริง หนังของคุโรซาว่าไม่ได้มีความเป็นตะวันตกเท่ากับที่มันมีความเป็นสากล และข้อสำคัญ ดูทันสมัยและไม่ได้ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องกาลเวลา
ว่าไปแล้ว ผู้ชมสามารถพิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้จากวิธีการที่คุโรซาว่าเรียงร้อยข้อมูลในช่วงสิบนาทีแรกของ Seven Samurai ที่สถาปนาเงื่อนไขสำคัญที่ผู้ชมควรรู้ได้อย่างกะทัดรัดและแยบยล ตั้งแต่ภูมิหลังและปมปัญหาของชาวนาที่ถูกพวกโจรรุกรานอยู่เนือง ๆ ความรู้สึกคับแค้นของการเป็นชนชั้นที่ต่ำสุด และถูกเอารัดเอาเปรียบจากทุกคน จนถึงการค้นพบหนทางแก้ปัญหา อีกทั้งหนังยังจำแนกแยกแยะตัวละครบางคนซึ่งจะมีบทบาทต่อไป ทั้งหลายทั้งปวงได้รับการถ่ายทอดผ่านกลวิธีทางด้านภาพยนตร์อย่างลื่นไหล แนบเนียน น่าตื่นตา และเต็มเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิง
เครดิตหนึ่งที่หนังเรื่อง Seven Samurai มักจะได้การกล่าวอ้างถึงเสมอก็คือ มันเป็นต้นแบบของหนังผจญภัยที่ว่าด้วยการรวมตัวของเหล่ายอดฝีมือเพื่อปฏิบัติภารกิจซักอย่างที่ความยากลำบากอยู่ในระดับที่สาหัสสากรรจ์ (ในกรณีของ Seven Samurai ได้แก่ซามูไรเจ็ดคนต้องรับมือพวกโจรอาวุธครบมือ สิริแล้วสามสิบกว่าคน) และหนังที่ได้รับอิทธิพลจากผลงานของคุโรซาว่าทั้งทางตรงและทางอ้อมมีนับไม่ถ้วน เรื่องหนึ่งที่เพิ่งจะผ่านสายตาไปไม่นานและหลายคนอาจนึกไม่ถึงก็คือ Avengers: Endgame ที่เนื้อหาส่วนหนึ่งว่าด้วยการรวบรวมแก๊งอเวนเจอร์ที่แตกสานซ่านเซ็นเพื่อเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขไถ่ถอนหายนะที่คร่าชีวิตของสรรพชีวิตในจักรวาลไปครึ่งหนึ่งอีกทั้งตัวละครที่เป็นส่วนผสมระหว่างพระเอกกับตัวตลกอย่างธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ท) ก็ยังเหมือนกับถอดแบบมาจากกับบทคิคุชิโย (โตชิโร มิฟูเน่) หนึ่งในตัวชูโรงของเรื่องผู้ซึ่งบุคลิกบ้าบิ่น มุทะลุและคึกคะนองเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างหรรษาครื้นเครง ทว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คงตระหนักได้ว่า ตื้นลึกหนาบางของตัวละครนี้อธิบายสารบบทางชนชั้นวรรณะในสังคมญี่ปุ่นได้อย่างเฉียบคม
หรือแม้กระทั่งฉากงานศพใน Avengers: Endgame ที่ทุกคนพากันมาร่วมไว้อาลัยให้กับผู้วายชนม์ในตอนท้าย ก็สามารถเทียบเคียงได้กับเหตุการณ์คล้ายกันในหนังเรื่อง Seven Samurai ซึ่งได้รับการสื่อสารผ่านการจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างติดตาตรึงใจ กระทั่งกลายเป็นภาพจำของหนังไปโดยปริยาย
แต่กล่าวอย่างถึงที่สุดจริง ๆ คุณค่าที่ยิ่งใหญ่และวิเศษของ Seven Samurai ได้แก่การที่หนังถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ปุถุชนของตัวละครได้อย่างตกผลึกและแตกฉานจริง ๆ สมมติจะยกเว้นพวกโจรซึ่งไม่ใช่จุดเน้นของเรื่อง ตัวละครแต่ละคนตามที่หนังบอกเล่าล้วนแล้วไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องหรือดิบดี พวกซามูไรถือว่าตัวเองเหนือกว่าพวกชาวนาและไม่สุงสิงปะปน กระทั่งดูหมิ่นดูแคลน ขณะที่ชาวนาก็ทั้งเกลียดและกลัวซามูไร หนึ่งในนั้นบังคับให้ลูกสาวปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วยเหตุผลที่ไม่เกินคาดเดา หรือในหมู่ชาวนาด้วยกันก็ไม่ได้สมัครสมานสามัคคี บางคนขี้ขลาด บางคนกล้าหาญ บางคนเสียสละ บางคนเห็นแก่ตัว
แต่จนแล้วจนรอด หนังของคุโรซาว่าก็ไม่เคยก้าวข้ามหรือเหยียบย่ำคุณค่าความเป็นคนของบรรดาตัวละครที่ผู้ชมได้เห็นทั้งด้านที่สว่างสดใสและขมุกขมัว ตรงกันข้าม กลับสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและศรัทธาในความเป็นมนุษย์ของคาแรกเตอร์เหล่านั้นอย่างไม่เสื่อมคลาย
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อมีคนถามคุโรซาว่าถึงความหมายร่วมที่อยู่ในผลงานทั้งหมดของเขา คำตอบก็คือ
“แก่นเรื่องหนึ่งเดียวที่ผมนึกถึงเป็นประโยคคำถาม...ทำไมผู้คนเราถึงอยู่ร่วมกันให้มีความสุขมากกว่านี้ไม่ได้?”
วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562 พลาดไม่ได้กับ Seven Samurai เจ็ดเซียนซามูไร หนึ่งในหนังดีที่สุดตลอดกาลของโลก มาขึ้นจอใหญ่อีกครั้งที่โรงภาพยนตร์สกาลา รอบ 12.00 น. ในรอบพิเศษไม่จำหน่ายบัตร แต่เปิดให้แฟน ๆ โปรแกรม ทึ่ง! หนังโลก สามารถนำตั๋วภาพยนตร์ในโปรแกรมนี้ เรื่องใดก็ได้จำนวน 3 ใบมาแลกรับบัตรชมภาพยนตร์ จำนวน 1 ใบ ฟรี!!!! ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป