กรมรถไฟแผ่นดิน สมัยที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นผู้บัญชาการ ได้ทรงจัดตั้งกองภาพยนตร์เผยแผ่ข่าวขึ้นในปี 2465 ทำหน้าที่ผลิตและเผยแพร่ภาพยนตร์ โดยมีขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิตเป็นหัวหน้าช่างถ่ายภาพและภาพยนตร์เป็นคนแรก นับเป็นหน่วยงานรัฐหน่วยงานแรก ๆ ในโลกที่มีภารกิจผลิตภาพยนตร์ประเภทข่าวสาร สารคดี โฆษณา เพื่อเผยแพร่กิจการต่าง ๆ ของรัฐ และของกรมรถไฟเอง นอกจากนี้ยังดำเนินการในลักษณะธุรกิจรับจ้างผลิตภาพยนตร์ให้แก่หน่วยงานอื่น ๆ ทั้งรัฐและเอกชน ด้วยความพร้อมด้านบุคลากรและอุปกรณ์การผลิตภาพยนตร์ที่ทันสมัย กองภาพยนตร์เผยแผ่ข่าวได้สร้างภาพยนตร์ข่าว สารคดีเป็นจำนวนมากจนเริ่มลดบทบาทลงไปหลังปี 2475 และสิ้นสุดบทบาทอย่างสิ้นเชิงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพยนตร์ที่สร้างในช่วงเวลานี้ส่วนหนึ่งค้นพบเมื่อปี 2524 ที่อาคารโรงพิมพ์การรถไฟ และได้รับการอนุรักษ์โดยหอภาพยนตร์ ยกตัวอย่าง การก่อสร้างสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ ปี 2474, ชมสยาม ปี 2473 และ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปี 2469
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง กรมรถไฟหลวงเปลี่ยนสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และเรียกชื่อใหม่ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ในช่วงนี้เองเกิดสถานีโทรทัศน์ช่องแรกขึ้นในประเทศไทย คือสถานีไทยโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม ดำเนินงานภายใต้การบริหารของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด เมื่อปี 2498 และปี 2502 ก็เกิดอีกสถานี คือสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 สนามเป้า ในระยะนี้เองได้มีผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีออกอากาศเผยแพร่ทางโทรทัศน์และเป็นที่นิยม การรถไฟได้ริเริ่มผลิตภาพยนตร์ขนาด 16 มม. เพื่อบันทึกและเผยแพร่กิจการรถไฟโดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ และนำไปจัดฉายกลางแปลงตามสถานีรถไฟ และออกอากาศโทรทัศน์ตามโอกาสต่าง ๆ
สถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2498 โดยผังรายการช่วงเริ่มต้นของไทยทีวี ช่อง 4 นั้น จะประกอบด้วย รายการข่าวประจำวัน รายการแสดงดนตรี ภาพยนตร์ชุดและรายการสารคดีทั้งไทยและต่างประเทศ
ภาพ: บริเวณสถานีรถไฟลพบุรี เห็นพระศรีรัตนมหาธาตุอยู่ด้านหลังใน จุลกฐินที่บ้านหมี่
รายการสารคดีไทยทางโทรทัศน์ที่ผู้ชมรู้จักดีในช่วงเวลานั้นคือ รายการสารคดีชุด มรดกของไทย โดย สมบูรณ์ วิรยศิริ สนับสนุนโดยบริษัทเอสโซ่ ซึ่งเริ่มออกอากาศในปี 2505 ทางช่อง 4 และรายการสารคดีชุด เที่ยวเมืองไทยไปกับโอวัลติน สร้างโดย รัชฟิล์ม โดยมีบริษัทดีทแฮล์มสนับสนุน ออกอากาศทางช่อง 7 ซึ่งเป็นสารคดีท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณีทั้งสองชุด
ด้วยความนิยมในการรับชมสารคดีเชิงท่องเที่ยวทางโทรทัศน์ที่เกิดขึ้น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการรถไฟเห็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์การเดินทางด้วยรถไฟท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟสายต่าง ๆ จึงดำเนินการสร้างสารคดีชุด สองข้างทางรถไฟ ขึ้น โดยเริ่มออกอากาศช่วงกลางปี 2506 ทางช่อง 4 ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดีเช่นกัน จนถึงราวปี 2519 จึงได้ยุติรายการลง
เมื่อหอภาพยนตร์เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2527 ได้มีความคิดว่า จะพยายามติดตามหาและรวบรวมภาพยนตร์สารคดีที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์อย่างยาวนานร่วมยี่สิบปีเหล่านี้ เพราะเห็นว่ามีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์การผลิตภาพยนตร์สารคดีไทยและมีบทบาทต่อสังคมไทยในยุคสมัยนั้น ตลอดจนเป็นเอกสารบันทึกเหตุการณ์และความเป็นไปของสังคมในช่วงเวลาหนึ่ง ที่สุดหอภาพยนตร์สามารถติดตามและรวบรวมฟิล์มภาพยนตร์ชุด มรดกของไทย ได้ค่อนข้างสมบูรณ์จากบริษัทเอสโซ่ ผู้ผลิต และชุด สองข้างทางรถไฟ ได้จำนวนหนึ่งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และอีกจำนวนหนึ่งจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์ชุดนี้ ส่วนภาพยนตร์สารคดีชุด เที่ยวเมืองไทยไปกับโอวัลติน ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกเบิกมาก่อน ยังไม่สามารถค้นพบฟิล์มภาพยนตร์เลย
ในโอกาสที่ปี 2566 นี้ นับว่าภาพยนตร์สารคดีชุด สองข้างทางรถไฟ มีอายุครบ 60 ปี นับจากการเริ่มเผยแพร่ทางโทรทัศน์ครั้งแรกในปี 2506 จึงขอเฉลิมฉลองและรื้อฟื้นความทรงจำของผู้ที่เกิดทันได้ดูภาพยนตร์ชุดนี้ ด้วยการแนะนำภาพยนตร์ชุด สองข้างทางรถไฟ ที่ได้รับการอนุรักษ์โดยหอภาพยนตร์
สารคดีชุด สองข้างทางรถไฟ เป็นรายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสังคมร่วมสมัย ออกอากาศเดือนละ 1 ตอน ตอนละประมาณ 30 นาที บรรยายสดโดย พูลลาภ อนะมาน ผู้อ่านข่าวซึ่งผู้ชมคุ้นเคยเสียงกันเป็นอย่างดี ภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาว-ดำ 16 มม. ไม่มีการบันทึกเสียงในฟิล์ม แต่จะใช้วิธีให้ผู้บรรยายพากย์สดที่สถานี รวมถึงเปิดเพลงและเสียงประกอบต่าง ๆ ในขณะออกอากาศ โดยสามารถรวบรวมข้อมูลทีมงานสร้างจากเครดิตท้ายภาพยนตร์บางส่วนได้ดังนี้
จัดสร้าง: การรถไฟแห่งประเทศไทย
อำนวยการถ่ายทำ: ประดิษฐ์ เทศประสิทธิ์ (บรรณาธิการข่าวของไทยทีวี)
สร้างบท: ชัช วงศ์สงวน (โฆษกของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย), อุทัย อนันตสมบูรณ์, สมบูรณ์ วิรยศิริ
ถ่ายภาพ: นพดล คล้ายเขียว, นิตินัย พรหมศิริ, ณรงค์ นะหุตานนท์, เฉลียว ผาสุข, สมบัติ รูปประดิษฐ์
ประกอบเสียง: ภิญโญ แก้วประสิทธิ์
ลำดับภาพ: ประดิษฐ์ เทศประสิทธิ์, อาภรณ์ แช่มช้อย
บรรยาย: พูลลาภ อนะมาน
ภาพยนตร์ชุด สองข้างทางรถไฟ เฉพาะที่ค้นพบนี้ ส่วนใหญ่ของฟิล์มภาพยนตร์ที่รวบรวมได้จะเป็นฉบับสำเนาของฟิล์ม 16 มม. ซึ่งนำเสียงที่ได้บันทึกขณะออกอากาศสดมาบันทึกลงในสำเนาฟิล์มภาพยนตร์เป็นก๊อบปี้พิเศษ ปัจจุบันสามารถให้บริการรับชมสำหรับผู้สนใจได้เป็นจำนวน 42 เรื่อง สามารถแบ่งลักษณะเนื้อหาออกได้เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มเนื้อหาเดินทางรายจังหวัด เป็นการนำเที่ยวสถานที่น่าสนใจตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วยการโดยสารรถไฟ มักขึ้นต้นและปิดท้ายเนื้อหาด้วยภาพการเดินทางรถไฟ เช่น ขุนตาล นำเสนอเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟสายเหนือ ผ่านสถานีนครลำปาง ทางรถไฟเลียบเทือกเขาขุนตาล สอดแทรกด้วยภาพการทำงานด้วยแรงงานคนในการขนส่งฟืน การกองเรียงฟืนในตู้รถไฟเพื่อขนส่งไปยังสถานที่เก็บสำรองฟืนสำหรับรถไฟ, เขาใหญ่ เป็นการเดินทางบนเส้นทางรถไฟสายแรก คือเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา โดยลงรถที่สถานีปากช่อง และย้อนกลับไปตามถนนมิตรภาพไปที่ทางแยกขึ้นเขาใหญ่, ยะลา บันทึกการเดินทางบนเส้นทางรถไฟสายใต้ที่มีความสวยงาม เส้นทางตัดผ่านพื้นที่เกษตรกรรมและเขารูปร่างแปลกตา ชุมทางหาดใหญ่มีความคึกคัก จากนั้นเดินทางต่อไปยังอำเภอเบตง ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่อย่างหนาแน่น และทีมงานได้บันทึกภาพความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ซาไก เพิงพักตั้งอยู่ในป่ามุงหลังคาด้วยใบตอง มีการล่าสัตว์ด้วยการใช้ลูกดอก
ข้อสังเกตคือ นอกจากจังหวัดหรือสถานีที่นำเสนอที่เป็นจุดหมายยอดนิยมของการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีอีกหลายจังหวัด/สถานีซึ่งอาจถูกมองโดยนักเดินทางว่าเป็นทางผ่าน แต่เป็นที่ตั้งของชุมทางหรือสถานีสำคัญบนเส้นทางรถไฟสายต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็ถูกเลือกมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจด้วย เช่น สุพรรณบุรี ปลายทางของทางรถไฟสายสุพรรณบุรีถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายตะวันตก หรือ จุลกฐินที่บ้านหมี่ เดิมบ้านหมี่เป็นเพียงชุมชนเล็ก ๆ ใน อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี แต่เมื่อมีเส้นทางรถไฟสายเหนือผ่าน ก็กลับกลายเป็นชุมชนที่มีความคึกคักทางการค้า มีการสานหมวกไม้ไผ่ ทอผ้า เป็นงานหัตถกรรมที่มีชื่อเสียง