คำสั่งคำสาป DEAD MAN’S VOICE

ฉบับที่ 1 

ฟิล์ม 16 มม. / ขาวดำ / เสียง / 138 นาที

บริษัทสร้าง เซานด์ม๊าสเตอร์

ผู้กำกับการแสดง เบอร์เน๊ท ลาม๊อนท์

ผู้ประพันธ์ กุมุท จันทร์เรือง

ผู้ถ่ายภาพ ปอล โรกาลลี

ผู้บันทึกเสียง แคลเรนส์ วอล

ผู้กำกับแผนกศิลป สมิต บุราวาศ

ที่ปรึกษาเทคนิค วิลเลียม เจ. เก๊ดนีย์

ผู้ลำดับภาพ โฟล แคลิฟาโน

ผู้แสดง อารี โทณะวณิก, สวลี ผกาพันธุ์, วสันต์ สุนทรปักษิน, มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา, สุคนธ์ แก้วอำไพ, อมร เศวตนันท์, อมฤต ตันกุลรัตน์, เฉลิม เศวตนันท์, อุโฆษ จันทร์เรือง, ประหยัด ศ. นาคะนาท, พจนา สาคริก


ฉบับที่ 2 

ฟิล์ม 35 มม. / ขาวดำ / เสียง / 102 นาที

บริษัทสร้าง ภาพยนตร์อิสรภาพ

ผู้ประพันธ์ กุมุท จันทร์เรือง

ผู้กำกับแผนกศิลป สมิต บุราวาศ

ผู้แสดง อารี โทณะวณิก, สวลี ผกาพันธุ์, วสันต์ สุนทรปักษิน, มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา, สุคนธ์ แก้วอำไพ, อมร เศวตนันท์, อมฤต ตันกุลรัตน์, เฉลิม เศวตนันท์, อุโฆษ จันทร์เรือง, ประหยัด ศ. นาคะนาท, พจนา สาคริก


ในยุคเริ่มต้นของสงครามเย็น ช่วงทศวรรษ 2490 เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาจัดตั้งสำนักข่าวสารอเมริกัน หรือที่เรียกกันว่า “ยูซิส” (United States Information Service – USIS) ขึ้นในเมืองไทย เพื่อเผยแพร่ลัทธิเสรีนิยมและต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ “ภาพยนตร์” ได้กลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของการโฆษณาชวนเชื่อที่ยูซิสนำมาใช้ครอบงำความคิดผู้คนทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์สารคดี การ์ตูน และที่สำคัญที่สุดคือภาพยนตร์ดำเนินเรื่อง 


ภาพยนตร์เหล่านี้มีทั้งที่สำนักข่าวสารอเมริกันสร้างขึ้นเอง และสนับสนุนทุนให้แก่ผู้สร้างหนังในเมืองไทย แม้จะมีการทำสำเนาขึ้นมาหลายชุด เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ นำออกไปเผยแพร่แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง แต่เมื่อสำนักข่าวสารอเมริกันหมดบทบาทลงหลังสิ้นสุดสงครามเย็น “หนังยูซิส” ได้ถูกทำลายลงไปจำนวนมาก โดยมีเพียงบางส่วนที่เหลือรอดมาให้หอภาพยนตร์ได้อนุรักษ์ไว้ แม้จะอยู่ในสภาพที่ร่อแร่ แต่ก็กลายเป็นหลักฐานสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์


กระทั่ง ปี พ.ศ. 2562 หอภาพยนตร์จึงพบว่ามีหนังยูซิสที่เคยสร้างเพื่อจัดฉายในเมืองไทย ได้รับการเก็บรักษาไว้ในสภาพสมบูรณ์ ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Archives and Records Administration - NARA) และบางเรื่องนั้นไม่มีอยู่ในคลังอนุรักษ์ของหอภาพยนตร์ หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์เรื่อง คำสั่งคำสาป ซึ่งมีทั้งหมด 2 ฉบับ คือ ฉบับที่แปลงสัญญาณมาจากฟิล์ม 16 มม. มีความยาว 138 นาที และฉบับที่มาจากฟิล์ม 35 มม. มีความยาว 102 นาที


ก่อนหน้านี้ หอภาพยนตร์ทราบข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้จาก วสันต์ สุนทรปักษินซึ่งเป็นผู้แสดงหลักของเรื่องว่าภาพยนตร์มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Dead Man’s Voice สร้างในปี พ.ศ. 2494 ต่อมา เมื่อจัดทำภาพยนตรานุกรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 จึงได้พบข้อมูลเรื่องย่อจากนิตยสารตุ๊กตาทอง พ.ศ. 2497 ซึ่งระบุว่า คำสั่งคำสาป ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ปีดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ของ สวลี ผกาพันธุ์ ที่ให้ข้อมูลว่าภาพยนตร์ถ่ายทำที่โรงถ่ายไทยฟิล์ม โรงถ่ายสำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย


เมื่อค้นพบภาพยนตร์ซึ่งมีทั้งหมด 2 ฉบับในความยาวที่แตกต่างกัน หอภาพยนตร์จึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมและพบข้อเขียนของ ประหยัด ศ. นาคะนาท ที่กล่าวถึงการถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ในหนังสืองานศพของ อุโฆษ จันทร์เรือง เมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลเดิม ทำให้สันนิษฐานได้ว่า คำสั่งคำสาป หรือ Dead Man’s Voice สร้างในปี พ.ศ. 2494 และตัดต่อออกมาในความยาวตามฉบับของฟิล์ม 16 มม. ซึ่งขึ้นชื่อผู้สร้างว่า “บริษัทเซานด์ม๊าสเตอร์” ตรงกับที่ประหยัดระบุไว้ แต่เกิดปัญหาเรื่องการจัดจำหน่าย จึงไม่ได้จัดฉาย 


ต่อมาปี 2497 จึงมีผู้นำมาจัดฉายในโรงภาพยนตร์ของไทย โดยตัดต่อใหม่ให้สั้นลงกว่าเดิม เป็นความยาวตามฉบับของฟิล์ม 35 มม. ซึ่งขึ้นชื่อผู้สร้างว่า “บริษัทภาพยนตร์อิสรภาพ” อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ระบุชัดเจนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดย U.S. Information Agency (USIA) สำนักงานใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ของสำนักข่าวสารอเมริกันที่จัดตั้งไว้ตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า The Command That Dooms 


คำสั่งคำสาป จึงนับได้ว่าเป็นหนังโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์เรื่องแรกสุดในเมืองไทย เท่าที่มีการค้นพบ และเนื้อหาของภาพยนตร์ยังแตกต่างจากหนังยูซิสในยุคหลังปี 2500 ที่มักแสดงภาพความเลวร้ายของกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีต่อชาวบ้านในชนบทห่างไกลเป็นหลัก แต่ใน คำสั่งคำสาป ภาพยนตร์มีฉากหลังอยู่ในกรุงเทพฯ โดยดำเนินเรื่องผ่านกลุ่มคนหนุ่มที่มีทั้งนักสืบและนักวิชาการ ซึ่งร่วมกันสืบหาเบื้องหลังของเหตุการณ์ลึกลับ เมื่อรูปปั้นของ ดร.ทองคำ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีใจรักในประชาธิปไตยและมีผู้คนศรัทธาเป็นจำนวนมาก กลับเปล่งเสียงเชิญชวนให้ผู้คนเลื่อมใสในลัทธิคอมมิวนิสต์ ซ้ำยังเกิดเหตุฆาตกรรมปริศนาภายในบ้าน


จุดเด่นที่สำคัญของ คำสั่งคำสาป คือการที่ทีมงานสร้างภาพยนตร์มาจากสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์จึงถ่ายทำและดำเนินเรื่องแบบเดียวกับหนังฮอลลีวูดคลาสสิกในยุคนั้น ทั้งบรรยากาศ การจัดแสง มุมกล้อง เทคนิคการบันทึกเสียง รวมไปถึงการแสดง ซึ่งดูแตกต่างอย่างชัดเจนจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ  จนน่าทึ่ง โดยในปี พ.ศ. 2494 ที่มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ วงการภาพยนตร์ไทยเพิ่งตั้งต้นขึ้นใหม่จากพิษภัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 และนักแสดงหลักหลายคนของเรื่องล้วนโด่งดังมาก่อนจากละครเวทีที่เฟื่องฟูในระหว่างช่วงสงคราม ทั้ง วสันต์ สุนทรปักษิน, สวลี ผกาพันธุ์, มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา, อารี โทณะวณิก, อุโฆษ จันทร์เรือง, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, เฉลิม เศวตนันท์ โดยผู้ประพันธ์เรื่องคือ กุมุท จันทร์เรือง ก็เป็นหนึ่งในนักเขียนบทละครเวทีที่มีชื่อเสียงที่สุดในเวลานั้น นอกจากนี้ยังมี ประหยัด ศ. นาคะนาท นักเขียน นักหนังสือพิมพ์นามปากกา “นายรำคาญ” ซึ่งต่อมาเป็นผู้มีบทบาทในฐานะนักต่อต้านคอมมิวนิสต์คนสำคัญด้านสังคมและการเมืองไทย มารับบทบาทร่วมกับนักแสดงคนอื่น ๆ ที่มีรายชื่อปรากฏในเครดิต คือ อมร เศวตนันท์, อมฤต ตันกุลรัตน์ และ พจนา สาคริก 


การค้นพบ คำสั่งคำสาป ทั้ง 2 ฉบับ จึงมีความสำคัญในหลายมิติ ทั้งในแง่หลักฐานชิ้นแรก ๆ ของการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ผ่านสื่อภาพยนตร์ในเมืองไทย ที่สร้างออกมาในรูปแบบหนังฮอลลีวูดคลาสสิก และในแง่บทบันทึกทางประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนผ่านมาจากละครเวที รวมถึงเป็นประจักษ์พยานให้แก่ฝีมือการแสดงของดาราชื่อดังในอดีตที่มีผลงานหลงเหลือมาในปัจจุบันเพียงน้อยนิด